แชร์

การตั้งราคาแบบ Loss Leader ล่อใจลูกค้าด้วยราคาต่ำ

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 22 ม.ค. 2025
1206 ผู้เข้าชม

การตั้งราคาแบบ Loss Leader ล่อใจลูกค้าด้วยราคาต่ำ

 

การตั้งราคาแบบ Loss Leader (Loss Leader Pricing) คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ธุรกิจตั้งราคาสินค้าบางรายการต่ำกว่าต้นทุน เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าอื่นๆ ที่มีกำไรมากขึ้น โดยหวังว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมเมื่อมาที่ร้าน

 

ทำไมต้องใช้กลยุทธ์ Loss Leader?

  • ดึงดูดลูกค้าใหม่: ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลองใช้บริการหรือสินค้า
  • เพิ่มยอดขายสินค้าอื่นๆ: เมื่อลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าราคาถูก พวกเขามักจะซื้อสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การเป็นที่รู้จักในเรื่องราคาที่ถูก อาจช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
  • เพิ่มการจราจรในร้านค้า: การลดราคาสินค้าบางรายการจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้าน

 

ตัวอย่างของสินค้าที่มักใช้กลยุทธ์ Loss Leader

  • สินค้าอุปโภคบริโภค: เช่น ไข่ไก่ นม น้ำอัดลม
  • สินค้าอิเล็กทรอนิกส์: เช่น สายชาร์จ หูฟัง
  • สินค้าประจำวัน: เช่น กระดาษทิชชู ยาสีฟัน

 

ข้อดีของการใช้กลยุทธ์ Loss Leader

  • เพิ่มยอดขาย: สามารถเพิ่มยอดขายโดยรวมของธุรกิจได้
  • สร้างความภักดีของลูกค้า: ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้า
  • สร้างการรับรู้แบรนด์: ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

 

ข้อเสียของการใช้กลยุทธ์ Loss Leader

  • ลดกำไร: การขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุนจะทำให้ธุรกิจขาดทุนในส่วนของสินค้าเหล่านั้น
  • กระตุ้นการแข่งขันด้านราคา: คู่แข่งอาจลดราคาตามมา
  • ลูกค้าอาจซื้อเฉพาะสินค้าราคาถูก: ลูกค้าอาจจะไม่สนใจซื้อสินค้าอื่นๆ ที่มีกำไร

 

เมื่อไรควรใช้กลยุทธ์ Loss Leader

  • เมื่อต้องการเพิ่มยอดขาย: ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มยอดขายโดยรวม
  • เมื่อมีสินค้าใหม่: ใช้สินค้าใหม่เป็นตัวล่อเพื่อให้ลูกค้าได้ลองใช้
  • เมื่อต้องการแข่งขันกับคู่แข่ง: ใช้เพื่อดึงลูกค้าจากคู่แข่งมา
  • เมื่อมีสินค้าคงคลังมากเกินไป: ใช้เพื่อเคลียร์สินค้าคงคลัง

 

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนใช้กลยุทธ์ Loss Leader

  • ต้นทุน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจสามารถรับภาระต้นทุนที่สูญเสียได้
  • กลุ่มเป้าหมาย: เลือกสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
  • คู่แข่ง: วิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่ง
  • ผลกระทบระยะยาว: พิจารณาผลกระทบระยะยาวต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

 

การตั้งราคาแบบ Loss Leader เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสนใจให้กับธุรกิจได้ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
จิตวิทยาการตั้งราคา: กลยุทธ์ที่ทำมากกว่าการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง หลายแบรนด์มักตกหลุมพรางที่ง่ายที่สุดในการดึงดูดลูกค้า นั่นคือ "การลดราคา" จริงอยู่ที่การลดราคาดึงดูดสายตาได้รวดเร็ว แต่มันก็เป็นกลยุทธ์ที่บั่นทอนกำไรและคุณค่าของแบรนด์ในระยะยาว คำถามคือ... จะทำอย่างไรให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ โดยที่เราไม่ต้องสาด "ป้ายแดง" ลดแหลกเพียงอย่างเดียว? คำตอบอยู่ที่ "จิตวิทยาการตั้งราคา" (Pricing Psychology) ศิลปะและวิทยาศาสตร์ของการนำเสนอตัวเลขที่ไม่ได้สื่อถึง "ต้นทุน" แต่สื่อถึง "คุณค่า" ที่ลูกค้ารับรู้ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจกลยุทธ์การตั้งราคาที่ลึกซึ้งกว่าการหั่นราคา และสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืน
ร่วมมือ.jpg Contact Center
29 ต.ค. 2025
ถอดรหัสอนาคตธุรกิจ: ใช้ Predictive Analytics พยากรณ์ยอดขายและอ่านใจลูกค้าได้อย่างไร?
ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven World) การ "เดา" หรือ "คาดการณ์" จากความรู้สึก อาจไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีพออีกต่อไป คู่แข่งของคุณกำลังก้าวไปข้างหน้า และลูกค้าก็มีความคาดหวังที่สูงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญคือ: จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่ายอดขายในไตรมาสหน้าจะเป็นเท่าไหร่? หรือลูกค้าคนไหนกำลังจะเลิกใช้บริการของคุณ?
ร่วมมือ.jpg Contact Center
27 ต.ค. 2025
ปลดแอกทีมขาย! Marketing Automation สำหรับ B2B: ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน เพิ่มเวลาโฟกัสงานปิดดีล
ในโลกของการแข่งขัน B2B (Business-to-Business) ที่ดุเดือด "เวลา" คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของทีมขาย แต่บ่อยครั้งแค่ไหนที่ทีมขายระดับท็อปของคุณต้องหมดเวลาไปกับการไล่ตาม Lead ที่ยังไม่พร้อม, การส่งอีเมล Follow-up ซ้ำๆ, หรือการคัดกรองข้อมูลลูกค้าด้วยมือ?
ร่วมมือ.jpg Contact Center
24 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ