แชร์

Brand Architecture 4 แบบ สร้างระบบแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 17 ม.ค. 2025
489 ผู้เข้าชม

Brand Architecture 4 แบบ สร้างระบบแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

 

Brand Architecture หรือ โครงสร้างแบรนด์ คือ การออกแบบและจัดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อให้เกิดความสอดคล้องและสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนแก่ผู้บริโภค โดยทั่วไปแบ่งโครงสร้างแบรนด์ออกเป็น 4 แบบหลัก ดังนี้

 

1. House of Brands (HoB)

ลักษณะ: แต่ละแบรนด์ในเครือมีความเป็นอิสระ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่ได้เชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน

ตัวอย่าง: P&G ที่มีแบรนด์ย่อยหลากหลาย เช่น Tide, Pampers, Gillette โดยแต่ละแบรนด์มีการตลาดและการสื่อสารที่เป็นของตัวเอง

ข้อดี

  • ความยืดหยุ่นสูง สามารถสร้างแบรนด์ใหม่ได้ง่าย
  • ลดความเสี่ยงหากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเกิดปัญหา

ข้อเสีย

  • ต้องใช้ทรัพยากรมากในการสร้างและบำรุงรักษาแบรนด์แต่ละแบรนด์
  • อาจทำให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้บริโภค

 

2. Branded House

ลักษณะ: แบรนด์หลักมีความแข็งแกร่ง และแบรนด์ย่อยทั้งหมดจะใช้ชื่อและโลโก้ของแบรนด์หลัก
ตัวอย่าง: Virgin Group ที่มีแบรนด์ย่อยหลากหลาย เช่น Virgin Atlantic, Virgin Mobile โดยใช้ชื่อ Virgin เป็นหลัก

ข้อดี

  • สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์หลัก
  • ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างแบรนด์ใหม่

ข้อเสีย

  • ขาดความยืดหยุ่นในการสร้างแบรนด์ใหม่ที่แตกต่าง
  • หากแบรนด์หลักเกิดปัญหา จะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ย่อยทั้งหมด

 

3. Endorsed Brand

ลักษณะ: แบรนด์ย่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ยังคงเชื่อมโยงกับแบรนด์หลักผ่านการรับรองหรือการสนับสนุน
ตัวอย่าง: Nestle ที่มีแบรนด์ KitKat, Nescafe โดย KitKat และ Nescafe มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ยังคงใช้โลโก้ Nestle ร่วมด้วย

ข้อดี

  • สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ย่อย
  • ช่วยให้แบรนด์หลักขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น

ข้อเสีย

  • อาจทำให้แบรนด์หลักดูซับซ้อนเกินไป

 

4. Sub-brand

ลักษณะ: แบรนด์ย่อยมีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์หลักอย่างใกล้ชิด แต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจน
ตัวอย่าง: Toyota ที่มีแบรนด์ Lexus ซึ่งเป็นแบรนด์รถหรู

ข้อดี

  • ช่วยให้แบรนด์หลักเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
  • สร้างความหลากหลายให้กับแบรนด์

ข้อเสีย

  • อาจเกิดความสับสนในหมู่ผู้บริโภคหากแบรนด์ย่อยมีความแตกต่างกันมากเกินไป

 

 

การเลือกใช้ Brand Architecture ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น กลยุทธ์ทางธุรกิจ, ขนาดขององค์กร, จำนวนแบรนด์, และกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง การเลือกใช้โครงสร้างแบรนด์ที่เหมาะสมจะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 
 
 




บทความที่เกี่ยวข้อง
เช็คลิสต์! 10 สิ่งของต้องห้ามส่งไปต่างประเทศ รู้ไว้ก่อนโดนตีกลับ
เคยไหมครับ? ตั้งใจแพ็กของอย่างดี ส่งไปให้คนสำคัญที่อยู่ต่างประเทศ แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์กลับพบว่าพัสดุถูกตีกลับมาที่หน้าประตูบ้าน พร้อมกับค่าส่งกลับที่ต้องจ่ายเพิ่ม... เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด และสาเหตุส่วนใหญ่มักมาจากการ "ส่งสิ่งของต้องห้าม" โดยไม่ได้ตั้งใจ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
23 ก.ค. 2025
เครื่องมือการขายในปัจจุบัน ( Sales )
ในยุคปัจจุบัน การขาย (Sales) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพบปะลูกค้าหรือโทรศัพท์หาอีกต่อไป แต่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหาลูกค้าใหม่ การดูแลลูกค้าเก่า ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อวางแผนการขายในอนาคต ทำให้กระบวนการขายรวดเร็ว แม่นยำ และเป็นส่วนตัวมากขึ้น นี่คือเครื่องมือการขายที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน
ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
23 ก.ค. 2025
ธุรกิจค้าปลีก VS ค้าส่ง ทำความเข้าใจเพื่อเลือกธุรกิจที่ใช่
ทั้งธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งต่างมีโอกาสและความท้าทายที่แตกต่างกัน การเลือกทำธุรกิจใดขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับตัวคุณเองและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
31 ต.ค. 2024
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ