แชร์

FOMO vs JOMO ความแตกต่างของพฤติกรรมในยุคดิจิทัล

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 11 ม.ค. 2025
465 ผู้เข้าชม

FOMO vs JOMO ความแตกต่างของพฤติกรรมในยุคดิจิทัล

 

ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น เราจะได้ยินคำสองคำนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ FOMO และ JOMO ซึ่งเป็นคำที่สะท้อนถึงพฤติกรรมที่แตกต่างกันของผู้คนในสังคม

 

FOMO (Fear of Missing Out) หรือ กลัวพลาด

ความหมาย: คือความรู้สึกกลัวที่จะพลาดอะไรบางอย่างที่น่าสนใจหรือสำคัญ เช่น ปาร์ตี้สนุกๆ เทรนด์ใหม่ๆ ข่าวสารล่าสุด หรือประสบการณ์ดีๆ ที่คนอื่นได้สัมผัส

พฤติกรรม: ผู้ที่มีพฤติกรรม FOMO มักจะ

  • ติดตามโซเชียลมีเดียตลอดเวลา
  • ต้องการอัพเดทข่าวสารอยู่เสมอ
  • รู้สึกกังวลเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่เป็นที่นิยม
  • มักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

 

JOMO (Joy of Missing Out) หรือ ความสุขที่ได้พลาด

ความหมาย: คือความรู้สึกมีความสุขกับการได้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดอะไรไปบ้าง

พฤติกรรม: ผู้ที่มีพฤติกรรม JOMO มักจะ

  • ใช้เวลากับกิจกรรมที่ตนเองชอบ
  • ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
  • ไม่รู้สึกกดดันที่จะต้องตามเทรนด์
  • มีความสุขกับความเรียบง่ายในชีวิต

 

สรุปความแตกต่าง

 

ทั้ง FOMO และ JOMO เป็นพฤติกรรมที่พบได้ทั่วไปในสังคม และไม่มีถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับว่าพฤติกรรมนั้นส่งผลต่อคุณอย่างไร หากคุณรู้สึกว่าพฤติกรรม FOMO ทำให้คุณเครียดและวิตกกังวล ลองหันมาลองฝึกปฏิบัติตัวแบบ JOMO บ้าง อาจจะช่วยให้คุณมีชีวิตที่สมดุลและมีความสุขมากขึ้น

 
 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Omnichannel Experience: สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ เชื่อมทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่" ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 พ.ย. 2025
Customer Experience (CX) 2.0: ทำไมการบริการ "หลังการขาย" ถึงสำคัญกว่า "ก่อนการขาย" ในยุคนี้
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
ร่วมมือ.jpg Contact Center
12 พ.ย. 2025
Sales Enablement: อาวุธลับที่ฝ่ายการตลาดสร้างให้ฝ่ายขาย เพื่อปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้" ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ