แชร์

ต้นทุนแฝง (Hidden Cost) คืออะไร ?

อัพเดทล่าสุด: 14 พ.ย. 2024
714 ผู้เข้าชม

ต้นทุนแฝง หรือ Hidden Cost คือ ค่าใช้จ่ายที่มักจะถูกมองข้ามหรือซ่อนอยู่เบื้องหลังในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้นทุนเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏชัดเจนในบัญชีบัญชีทั่วไปเสมอไป แต่เมื่อรวมกันแล้วอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรของธุรกิจได้อย่างมาก

ทำไมจึงไม่ควรมองข้ามต้นทุนแฝง ?

  • กัดกินกำไรโดยไม่รู้ตัว: ต้นทุนแฝงเล็กๆ น้อยๆ เมื่อรวมกันแล้วอาจกลายเป็นจำนวนเงินที่มากพอที่จะลดผลกำไรของธุรกิจได้อย่างเห็นได้ชัด
  • ขัดขวางการตัดสินใจ: หากไม่สามารถระบุต้นทุนแฝงได้อย่างชัดเจน การตัดสินใจทางธุรกิจต่างๆ เช่น การกำหนดราคาสินค้า การลงทุนในโครงการใหม่ อาจไม่แม่นยำและนำไปสู่ความผิดพลาดได้
  • ลดความสามารถในการแข่งขัน: ธุรกิจที่สามารถควบคุมต้นทุนแฝงได้ดี จะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เพราะสามารถเสนอราคาสินค้าหรือบริการที่แข่งขันได้มากขึ้น
  • ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ: ปัญหาที่เกิดจากต้นทุนแฝง เช่น การส่งมอบสินค้าล่าช้า การบริการลูกค้าที่ไม่ดี อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจในระยะยาว

ตัวอย่างของต้นทุนแฝงที่พบบ่อย

  • ค่าเสียเวลา: เวลาที่ใช้ไปกับการทำงานที่ซ้ำซ้อน การรอคอย การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาด
  • ค่าเสียโอกาส: การไม่ได้ลงทุนในโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากขาดทรัพยากรหรือข้อมูลที่เพียงพอ
  • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ: ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า ค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้สิน
  • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพ: ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสินค้าที่บกพร่อง ค่าใช้จ่ายในการเรียกคืนสินค้า

วิธีการจัดการกับต้นทุนแฝง

  • ระบุและวิเคราะห์ต้นทุนแฝง: ใช้เครื่องมือทางบัญชีและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุและวิเคราะห์ต้นทุนแฝงทั้งหมด
  • ปรับปรุงกระบวนการทำงาน: ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
  • ใช้เทคโนโลยี: ใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและลดต้นทุน
  • ฝึกอบรมพนักงาน: ฝึกอบรมพนักงานให้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนแฝง
  • ติดตามและประเมินผล: ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมต้นทุนแฝงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

ต้นทุนแฝงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลกำไรของธุรกิจ การที่ผู้ประกอบการสามารถระบุและจัดการกับต้นทุนแฝงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว







BY: MANthi

ที่มา: Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
Omnichannel Experience: สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ เชื่อมทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่" ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 พ.ย. 2025
Customer Experience (CX) 2.0: ทำไมการบริการ "หลังการขาย" ถึงสำคัญกว่า "ก่อนการขาย" ในยุคนี้
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
ร่วมมือ.jpg Contact Center
12 พ.ย. 2025
Sales Enablement: อาวุธลับที่ฝ่ายการตลาดสร้างให้ฝ่ายขาย เพื่อปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้" ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ