แชร์

ส่งของไปต่างประเทศฉบับสมบูรณ์: เจาะลึกทุกขั้นตอนสำหรับมือใหม่

noimageauthor ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
อัพเดทล่าสุด: 29 ก.ค. 2025
78 ผู้เข้าชม

ส่งของไปต่างประเทศฉบับสมบูรณ์: เจาะลึกทุกขั้นตอนสำหรับมือใหม่

        การส่งพัสดุข้ามทวีปไปหาคนที่คุณรักหรือลูกค้าที่รอคอย อาจฟังดูเป็นเรื่องที่น่ากังวลและเต็มไปด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนสำหรับมือใหม่ แต่ความจริงแล้ว หากเราเข้าใจกระบวนการทั้งหมดทีละขั้นตอน การส่งของไปต่างประเทศก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำทางคุณโดยเฉพาะ โดยจะเจาะลึกทุกขั้นตอนที่จำเป็น ตั้งแต่การเตรียมของชิ้นแรกไปจนถึงพัสดุถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณส่งของครั้งต่อไปได้อย่างมั่นใจและเป็นมืออาชีพ

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมความพร้อมก่อนส่ง (Checklist สำหรับมือใหม่)
        ก่อนที่คุณจะเริ่มมองหากล่องพัสดุ การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญที่สุดที่จะทำให้การจัดส่งราบรื่น มาเริ่มต้นด้วย Checklist ง่ายๆ ที่มือใหม่ทุกคนต้องรู้:
  • ตรวจสอบปลายทางและของต้องห้าม: สิ่งแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทาง สินค้าบางชนิดเป็น "ของต้องห้าม" (Prohibited Items) เช่น วัตถุไวไฟ, แบตเตอรี่, พาวเวอร์แบงค์ หรือเป็น "ของต้องกำกัด" (Restricted Items) ที่ต้องมีใบอนุญาต เช่น อาหารบางประเภท, เครื่องสำอาง, ยา คุณสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จากเว็บไซต์ของบริษัทขนส่งหรือเว็บไซต์ศุลกากรของประเทศนั้นๆ
  • เตรียมข้อมูลผู้รับ-ผู้ส่ง: เตรียมชื่อ, ที่อยู่, เมือง, รัฐ (ถ้ามี), รหัสไปรษณีย์, และเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับและผู้ส่งให้ถูกต้องและครบถ้วน ที่สำคัญคือต้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เพื่อป้องกันพัสดุตีกลับ
  • ประเมินมูลค่าสินค้า: ลองประเมินมูลค่าของในกล่องตามความเป็นจริง เพื่อใช้สำหรับกรอกเอกสารศุลกากรในขั้นตอนต่อไป

ขั้นตอนที่ 2: เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่ใช่และคุ้มค่าที่สุด
          การเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการ จะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลา เราสามารถแบ่งตัวเลือกหลักๆ ได้ดังนี้
  • กลุ่มส่งด่วน (Express Courier): เหมาะสำหรับของเร่งด่วน, เอกสารสำคัญ, หรือของมีมูลค่าสูง ผู้ให้บริการชั้นนำ เช่น DHL, FedEx, UPS มีจุดเด่นคือความเร็วสูงสุด (1-5 วันทำการ) บริการแบบ Door-to-Door และระบบติดตามพัสดุที่แม่นยำ แต่ก็มีราคาสูงที่สุดเช่นกัน
  • กลุ่มไปรษณีย์ไทย (Thailand Post): เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่าย มีบริการหลากหลาย เช่น EMS World ที่เร็วขึ้นมาหน่อย หรือ พัสดุย่อยทางอากาศ สำหรับของชิ้นเล็กน้ำหนักไม่เกิน 2 กก. ซึ่งราคาถูกมาก เหมาะกับของที่ไม่รีบร้อน
  • กลุ่มตัวกลาง/เอเจนต์ (Shipping Agent): เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เช่น FastShip, SME Shipping บริษัทเหล่านี้เป็นพาร์ทเนอร์กับขนส่งด่วนอย่าง DHL ทำให้ได้เรทค่าส่งที่ถูกกว่าการส่งตรงเอง มีระบบให้เปรียบเทียบราคาและทำรายการได้สะดวก

 ขั้นตอนที่ 3: การแพ็คสินค้าอย่างมืออาชีพ ป้องกันความเสียหาย
การแพ็คที่ดีคือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อปกป้องพัสดุของคุณให้เดินทางข้ามทวีปอย่างปลอดภัย
  1. เลือกกล่องที่เหมาะสม: ใช้กล่องพัสดุใหม่ที่แข็งแรงและมีขนาดพอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
  2. ห่อหุ้มกันกระแทก: ใช้บับเบิ้ลแรปห่อหุ้มตัวสินค้า โดยเฉพาะส่วนที่เปราะบาง เช่น มุมหรือขอบ
  3. อุดช่องว่าง: อย่าปล่อยให้มีที่ว่างในกล่อง ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ขยำ, โฟม, หรือเศษบับเบิ้ลอุดให้แน่น เพื่อไม่ให้ของขยับไปมาได้
  4. ปิดผนึกให้แน่นหนา: ใช้เทปกาวคุณภาพดีปิดตามรอยพับของกล่องทุกด้าน (แนะนำให้ปิดเป็นรูปตัว H) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
  5. แปะใบจ่าหน้า: พิมพ์ใบจ่าหน้า (Shipping Label) ที่ได้จากบริษัทขนส่ง แปะไว้บนด้านที่เรียบและใหญ่ที่สุดของกล่องให้เห็นชัดเจน
ขั้นตอนที่ 4: เอกสารสำคัญที่ต้องรู้! กรอกใบสำแดงศุลกากร (CN22/23)
        ใบสำแดงศุลกากร (Customs Declaration) คือเอกสารที่บอกเจ้าหน้าที่ว่าของในกล่องคืออะไร มีมูลค่าเท่าไหร่ และเป็นเอกสารบังคับที่ต้องแนบไปกับพัสดุทุกชิ้น

ขั้นตอนที่ 5: ทำความเข้าใจเรื่องค่าใช้จ่ายและภาษีศุลกากร
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ได้จบแค่ค่าส่ง แต่ยังมีเรื่องภาษีที่ควรรู้
  • ค่าขนส่ง: จะคิดจาก น้ำหนักจริง (Actual Weight) หรือ น้ำหนักตามปริมาตร (Volumetric Weight) โดยจะยึดตัวเลขที่สูงกว่าในการคำนวณราคา
  • สูตรคำนวณน้ำหนักปริมาตร (กก.) = (กว้าง x ยาว x สูง เป็น ซม.) / 5000
  • ภาษีศุลกากร (Customs Duty/Tax): เป็นภาษีที่เรียกเก็บโดยประเทศปลายทาง ซึ่ง ผู้รับปลายทางจะเป็นผู้รับผิดชอบชำระ ก่อนรับของ อย่างไรก็ตาม หลายประเทศมีเกณฑ์การยกเว้นภาษี (De Minimis) หากมูลค่าของต่ำกว่าที่กำหนด ก็จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษี

ขั้นตอนที่ 6: การติดตามพัสดุ (Tracking) และสิ่งที่ต้องทำเมื่อของถึงปลายทาง
     เมื่อคุณส่งของเรียบร้อย จะได้รับ เลขติดตามพัสดุ (Tracking Number) ซึ่งคุณสามารถนำไปตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลาผ่านเว็บไซต์ของผู้ให้บริการขนส่ง เมื่อพัสดุถึงประเทศปลายทาง สถานะจะอัปเดตว่ากำลังอยู่ในกระบวนการทางศุลกากร (Customs Clearance) เมื่อเคลียร์เสร็จเรียบร้อย ก็จะถูกส่งต่อไปยังที่อยู่ผู้รับตามลำดับ

ข้อมูลติดต่อและลิงก์เพิ่มเติม:

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620 อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17, 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย! https://www.bsgroupth.com/parcel-delivery-service-to-customers-home


บทความที่เกี่ยวข้อง
คู่มือส่งของไปต่างประเทศ: เปิดตำราเตรียมตัวฉบับสมบูรณ์ ส่งอย่างไรให้ปลอดภัย ไร้กังวล
การส่งของข้ามทวีปไปให้เพื่อน ครอบครัว หรือลูกค้าในต่างแดน อาจดูเป็นเรื่องซับซ้อนและน่ากังวลใจ ด้วยขั้นตอนมากมายและกฎระเบียบที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ แต่ไม่ต้องห่วง!
ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
4 ส.ค. 2025
ลดต้นทุน เพิ่มกำไร! 5 เทคนิคการจัดการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจ
ในโลกของธุรกิจที่การแข่งขันสูง ทุกบาททุกสตางค์ที่ประหยัดได้ หมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นโดยตรง และหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญและมักจะซับซ้อนที่สุดสำหรับผู้ประกอบการก็คือ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
5 ส.ค. 2025
ส่งอะไรได้บ้าง? เปิดลิสต์ 'สินค้าต้องห้าม' ก่อนส่งพัสดุไปต่างประเทศ
เคยไหมครับ? เวลาที่ตั้งใจแพ็คของอย่างดีเพื่อส่งให้คนรักหรือเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขนมอร่อยๆ ยา หรือของใช้ส่วนตัว
ร่วมมือ.jpg Contact Center
2 ส.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ