แชร์

เทคโนโลยีกับการขนส่ง บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร?

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 12 มิ.ย. 2025
22 ผู้เข้าชม

เทคโนโลยีกับการขนส่ง บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร?

ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายรายย่อยหรือธุรกิจขนาดใหญ่ ต่างมองหาโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า หนึ่งในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีการจัดส่งสินค้าไปอย่างสิ้นเชิงก็คือ บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้าน (Pick-up at door service) ซึ่งกำลังกลายเป็นฟีเจอร์หลักของผู้ให้บริการขนส่งรายใหญ่ในไทยและทั่วโลก แต่นอกเหนือจากความสะดวกสบาย บริการนี้ยังช่วย ลดต้นทุน ให้กับผู้ส่งพัสดุได้อย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกว่าบริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านทำงานอย่างไร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อการลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ

1.บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านคืออะไร?

บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้าน คือการที่ผู้ให้บริการขนส่งจัดส่งพนักงานไปรับพัสดุจากต้นทาง (ผู้ส่ง) โดยไม่ต้องให้ลูกค้านำพัสดุไปส่งเองที่จุด Drop-off เช่น สาขาหรือจุดบริการ บริการนี้สามารถจองผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือระบบ API ของบริษัทขนส่ง โดยมีการนัดหมายวันและเวลาที่สะดวกสำหรับผู้ส่งพัสดุ

2.ลดต้นทุนในมุมมองของผู้ใช้งานอย่างไร?

2.1 ประหยัดค่าเดินทาง
สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยหรือแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องนำพัสดุไปส่งเองทุกวัน ค่ารถ ค่าเวลา และค่าแรง เป็นต้นทุนแฝงที่สูงกว่าที่คิด การมีบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้านช่วยลดภาระตรงนี้ได้ทันที

2.2 ลดต้นทุนแรงงาน
ธุรกิจขนาดเล็กหลายแห่งต้องจ้างคนขับรถหรือพนักงานจัดส่งสินค้าไปยังจุด Drop-off ซึ่งเป็นต้นทุนต่อเนื่อง หากมีระบบเข้ารับพัสดุแทน ค่าใช้จ่ายตรงนี้จะหายไปหรือปรับลดได้มาก

2.3 จัดการเวลาได้ดีขึ้น = ลดต้นทุนโอกาส
เวลาคือทรัพยากรที่มีค่า โดยเฉพาะในธุรกิจยุคดิจิทัล การใช้เวลาน้อยลงในการบริหารการจัดส่ง ช่วยให้เจ้าของกิจการมีเวลาไปพัฒนาสินค้า หาลูกค้า หรือลงทุนในเรื่องอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า

3.เทคโนโลยีเบื้องหลังบริการเข้ารับพัสดุ

3.1 ระบบ Route Optimization
ผู้ให้บริการขนส่งใช้ อัลกอริธึมจัดเส้นทาง (Route Optimization) เพื่อวางแผนการเดินทางที่เร็วที่สุด ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด และใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด เช่น AI ในการคำนวณเส้นทางของรถรับพัสดุแต่ละคันแบบเรียลไทม์

3.2 การจองคิวผ่านระบบอัตโนมัติ
ลูกค้าสามารถจองเวลารับพัสดุผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้สะดวก โดยระบบ Backend จะประสานงานกับคนขับอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาโทรศัพท์หรือคุยกับพนักงาน

3.3 การเชื่อมต่อ API กับระบบร้านค้า
หลายระบบขนส่งสามารถเชื่อมต่อกับ Marketplace หรือระบบ Order Management (OMS) โดยอัตโนมัติ เช่น เชื่อมกับ Lazada, Shopee, Shopify, WooCommerce ทำให้เมื่อมีออเดอร์เข้ามา ระบบสามารถสั่งจองการรับพัสดุได้ทันที

4.ตัวอย่างการประยุกต์ใช้จริง

เคสร้านค้าออนไลน์ระดับกลางร้านค้าออนไลน์ใน กทม. ที่มีออเดอร์วันละ 30 กล่อง หากเจ้าของร้านต้องนำของไปส่งจุด Drop-off เอง ใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง รวมค่ารถ ค่าเวลา และค่าเสียโอกาสประมาณ 500700 บาทต่อวัน

หลังจากเปลี่ยนมาใช้บริการเข้ารับพัสดุ

  • ไม่ต้องจ้างพนักงานจัดส่ง
  • ไม่เสียเวลานำของไปจุดส่ง
  • มีเวลามากขึ้นในการแพ็คของและตอบลูกค้า

ในระยะเวลา 1 เดือน ต้นทุนลดลงได้ถึง 15,00020,000 บาท และยังเพิ่มยอดขายได้เพราะบริหารเวลาได้ดีขึ้น

5.ผู้ให้บริการรายใดบ้างที่มีบริการนี้ในไทย?

บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านกำลังเป็นมาตรฐานของผู้ให้บริการชั้นนำ เช่น

  • Flash Express เข้ารับฟรีทุกวัน ไม่มีขั้นต่ำ

  • Kerry Express มีบริการเข้ารับโดยสมัครสมาชิกธุรกิจ

  • SCG Express รับถึงหน้าบ้าน มีบริการจัดการแบบ B2B

  • ไปรษณีย์ไทย บริการ Pick-up ผ่านแอป Track&Trace และระบบ EMS Plus

  • BS Express รับถึงหน้าบ้าน มีบริการจัดการแบบ B2B

6.ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน

  • ตรวจสอบเงื่อนไขขั้นต่ำในการรับพัสดุ
  • ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการในแต่ละวัน
  • บางผู้ให้บริการอาจมีค่าธรรมเนียมในพื้นที่ห่างไกล
  • ควรใช้ระบบ Tracking ร่วมด้วยเพื่อเช็คสถานะแบบเรียลไทม์

สรุปบริการเข้ารับพัสดุคือ ตัวช่วยประหยัด ที่หลายคนมองข้าม

ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันด้วยความเร็วและต้นทุนต่ำ บริการเข้ารับพัสดุถึงบ้านไม่ใช่แค่ ทางเลือก แต่เป็น กลยุทธ์การลดต้นทุน ที่ทุกธุรกิจควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ บริการนี้จะกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของระบบโลจิสติกส์ยุคใหม่ ที่ทั้งสะดวก ประหยัด และพร้อมต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน


บทความที่เกี่ยวข้อง
 เปลี่ยนชีวิตแม่ค้าออนไลน์ ด้วยบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน
สวัสดีครับ/ ชาวแม่ค้าออนไลน์ทุกคน! รู้ไหมว่ากิจวัตรประจำวันที่ต้อง “แพ็กของ” แล้ว “แบกไปส่ง” ที่ขนส่งเป็นอะไรที่กินเวลาและพลังงานไปมากแค่ไหน?
ร่วมมือ.jpg Contact Center
17 มิ.ย. 2025
5 ปัญหาที่บริษัทขนส่งเจอบ่อย – และวิธีที่ ChatGPT ช่วยแก้ได้
ในธุรกิจขนส่ง ความแม่นยำและความรวดเร็วเป็นหัวใจหลักของการให้บริการ แต่เบื้องหลังระบบที่ซับซ้อนนั้น มักจะเต็มไปด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูล การสื่อสาร หรือการจัดการภายใน โชคดีที่ปัจจุบันเทคโนโลยี AI อย่าง ChatGPT สามารถเข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า 5 ปัญหาหลักที่บริษัทขนส่งต้องเจอคืออะไร และ ChatGPT จะเข้ามาช่วยได้อย่างไรบ้าง
ร่วมมือ.jpg Contact Center
17 มิ.ย. 2025
Route Optimization อัตโนมัติ – เมื่อระบบคิดแทนคนได้แม่นกว่า
Route Optimization อัตโนมัติ – เมื่อระบบคิดแทนคนได้แม่นกว่า
Notify.png พี่ปี
16 มิ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ