5 บริษัทที่ใช้ AI เปลี่ยนคลังสินค้าให้กลายเป็นกำไร
อัพเดทล่าสุด: 15 พ.ค. 2025
23 ผู้เข้าชม
1. Amazon คลังสินค้าหุ่นยนต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ
Amazon เป็นผู้นำระดับโลกในการใช้ AI เพื่อยกระดับระบบคลังสินค้า บริษัทได้ใช้หุ่นยนต์ Kiva ที่ควบคุมด้วย AI เพื่อจัดเรียงและหยิบสินค้าได้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังใช้ระบบ Machine Learning ในการคาดการณ์อุปสงค์ล่วงหน้า ช่วยลดสต็อกค้างและเพิ่มการหมุนเวียนของสินค้าอย่างแม่นยำ
ผลลัพธ์:
Alibaba ใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติชื่อว่า Cainiao ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อควบคุมเส้นทางจัดส่งและจัดการสต็อกแบบเรียลไทม์ หุ่นยนต์ในคลังสามารถหลีกเลี่ยงกันได้อย่างแม่นยำ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก
ผลลัพธ์:
Walmart ใช้ AI เพื่อคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค โดยดึงข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อ ข้อมูลสภาพอากาศ และแนวโน้มท้องถิ่น เพื่อจัดการสินค้าคงคลังให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังใช้ หุ่นยนต์สแกนชั้นวางสินค้า เพื่อช่วยตรวจสอบสต็อกจริงแบบอัตโนมัติ
ผลลัพธ์:
Ocado บริษัทค้าปลีกออนไลน์จากอังกฤษ ใช้ AI ควบคุมระบบคลังสินค้าแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ หุ่นยนต์กว่า 1,000 ตัวทำงานร่วมกันอย่างแม่นยำในระบบที่ซับซ้อนและมีความเร็วสูง AI ช่วยวางแผนเส้นทางของหุ่นยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันแม้ในจุดที่แคบที่สุด
ผลลัพธ์:
Zara ใช้ AI วิเคราะห์แนวโน้มแฟชั่นจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถปรับปริมาณสินค้าในแต่ละคลังได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงของสินค้าคงเหลือหรือขายไม่ออก
ผลลัพธ์:
AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเทคโนโลยี แต่กลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ทรงพลังในการบริหารคลังสินค้าอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลกหรือบริษัทค้าปลีกท้องถิ่น การลงทุนใน AI สำหรับโลจิสติกส์คือก้าวสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนต้นทุนให้กลายเป็นกำไรได้อย่างยั่งยืน
Amazon เป็นผู้นำระดับโลกในการใช้ AI เพื่อยกระดับระบบคลังสินค้า บริษัทได้ใช้หุ่นยนต์ Kiva ที่ควบคุมด้วย AI เพื่อจัดเรียงและหยิบสินค้าได้เร็วขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังใช้ระบบ Machine Learning ในการคาดการณ์อุปสงค์ล่วงหน้า ช่วยลดสต็อกค้างและเพิ่มการหมุนเวียนของสินค้าอย่างแม่นยำ
ผลลัพธ์:
- เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง
- ลดต้นทุนแรงงาน
- รองรับคำสั่งซื้อมหาศาลในช่วงเทศกาล
Alibaba ใช้ระบบคลังสินค้าอัตโนมัติชื่อว่า Cainiao ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อควบคุมเส้นทางจัดส่งและจัดการสต็อกแบบเรียลไทม์ หุ่นยนต์ในคลังสามารถหลีกเลี่ยงกันได้อย่างแม่นยำ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องหยุดพัก
ผลลัพธ์:
- ต้นทุนการจัดการลดลงกว่า 30%
- ความแม่นยำในการจัดส่งสูงกว่า 99%
- ใช้พื้นที่คลังสินค้าอย่างคุ้มค่าที่สุด
Walmart ใช้ AI เพื่อคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค โดยดึงข้อมูลจากพฤติกรรมการซื้อ ข้อมูลสภาพอากาศ และแนวโน้มท้องถิ่น เพื่อจัดการสินค้าคงคลังให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังใช้ หุ่นยนต์สแกนชั้นวางสินค้า เพื่อช่วยตรวจสอบสต็อกจริงแบบอัตโนมัติ
ผลลัพธ์:
- ลดของเสียจากสินค้าหมดอายุ
- เติมสต็อกได้ตรงจุด ตรงเวลา
- ประสบการณ์ลูกค้าดีขึ้นอย่างชัดเจน
Ocado บริษัทค้าปลีกออนไลน์จากอังกฤษ ใช้ AI ควบคุมระบบคลังสินค้าแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ หุ่นยนต์กว่า 1,000 ตัวทำงานร่วมกันอย่างแม่นยำในระบบที่ซับซ้อนและมีความเร็วสูง AI ช่วยวางแผนเส้นทางของหุ่นยนต์เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันแม้ในจุดที่แคบที่สุด
ผลลัพธ์:
- บรรจุคำสั่งซื้อได้ภายในไม่กี่นาที
- ลดต้นทุนการปฏิบัติงานได้มาก
- เพิ่มความสามารถในการขยายธุรกิจ
Zara ใช้ AI วิเคราะห์แนวโน้มแฟชั่นจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้บริษัทสามารถปรับปริมาณสินค้าในแต่ละคลังได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงของสินค้าคงเหลือหรือขายไม่ออก
ผลลัพธ์:
- ลดสินค้าคงคลังส่วนเกิน
- เพิ่มความเร็วในการวางขายสินค้าตามเทรนด์
- ขยายกำไรต่อหน่วยสินค้าได้มากขึ้น
AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเทคโนโลยี แต่กลายเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ทรงพลังในการบริหารคลังสินค้าอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ระดับโลกหรือบริษัทค้าปลีกท้องถิ่น การลงทุนใน AI สำหรับโลจิสติกส์คือก้าวสำคัญที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนต้นทุนให้กลายเป็นกำไรได้อย่างยั่งยืน
บทความที่เกี่ยวข้อง
สำหรับใครที่เริ่มต้นทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก คำว่า HS CODE หรือ Harmonized System Code เป็นสิ่งที่คุณจะได้ยินบ่อยมาก เพราะมันคือรหัสที่สำคัญในการจำแนกประเภทสินค้าเวลาที่ต้องผ่านศุลกากร แล้วเจ้า HS CODE นี้คืออะไร และเราจะหาได้จากที่ไหน? มาหาคำตอบกันครับ!
17 พ.ค. 2025
ในยุคที่การแข่งขันสูงและความคาดหวังของลูกค้าเพิ่มขึ้น การบริหารจัดการขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่เรื่องของ "ความรวดเร็ว" อีกต่อไป
17 พ.ค. 2025
ในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังความรวดเร็ว แม่นยำ และประสบการณ์ที่ “ใช่” ตั้งแต่คลิกแรกจนถึงการรับสินค้า — ธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ก่อน ย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน และนั่นคือเหตุผลที่การรวม AI, ระบบคลังสินค้า, และ ความคิดสร้างสรรค์ เข้าด้วยกัน กำลังกลายเป็นสูตรลับที่ธุรกิจรุ่นใหม่ไม่อาจมองข้าม
16 พ.ค. 2025