แชร์

Tagline คืออะไร และสำคัญอย่างไรในวงการการตลาด

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 30 ม.ค. 2025
627 ผู้เข้าชม

Tagline คืออะไร และสำคัญอย่างไรในวงการการตลาด

 

Tagline หรือที่เรียกกันว่า สโลแกน คือวลีสั้นๆ ที่มีความหมายลึกซึ้งและโดนใจ ใช้เพื่อสื่อสารเอกลักษณ์ จุดยืน หรือคุณค่าของแบรนด์ สินค้า หรือแคมเปญการตลาดนั้นๆ ให้ผู้บริโภคจดจำได้ง่ายและรวดเร็ว

 

ความสำคัญของ Tagline ในวงการการตลาด

  1. สร้างการจดจำแบรนด์: Tagline ที่ดีจะช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น เหมือนเป็น "ลายเซ็น" ของแบรนด์ที่ติดหูติดตา
  2. สื่อสารเอกลักษณ์และคุณค่า: Tagline สามารถสื่อสารถึงสิ่งที่แบรนด์เป็น จุดยืนของแบรนด์ หรือคุณค่าที่แบรนด์มอบให้ลูกค้าได้อย่างกระชับและชัดเจน
  3. สร้างความแตกต่าง: Tagline ที่โดดเด่นจะช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค
  4. สร้างความรู้สึกร่วม: Tagline ที่ดีจะสามารถสร้างความรู้สึกร่วมและความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคได้
  5. เป็นเครื่องมือทางการตลาด: Tagline ถูกนำไปใช้ในงานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

 

องค์ประกอบของ Tagline ที่ดี

  • สั้นและกระชับ: ควรมีความยาวไม่เกิน 5-7 คำ เพื่อให้จดจำได้ง่าย
  • เข้าใจง่าย: ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และสื่อความหมายได้ชัดเจน
  • โดดเด่นและแตกต่าง: ควรมีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำกับใคร และสร้างความประทับใจ
  • สื่อถึงคุณค่า: สื่อสารถึงสิ่งที่แบรนด์มอบให้ลูกค้า หรือคุณค่าที่แบรนด์ยึดมั่น
  • สอดคล้องกับแบรนด์: สอดคล้องกับภาพลักษณ์ บุคลิก และจุดยืนของแบรนด์

 

ตัวอย่าง Tagline ที่ประสบความสำเร็จ

  • Nike: Just Do It (ทำในสิ่งที่ใช่)
  • Apple: Think Different (คิดต่าง)
  • L'Oréal: Because You're Worth It (เพราะคุณคู่ควร)
  • Coca-Cola: Open Happiness (เปิดความสุข)

 

Tagline เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำ การสร้าง Tagline ที่ดีต้องอาศัยความเข้าใจในแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย และความสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้วลีที่สามารถสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
 
 
 
 
 
 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Omnichannel Experience: สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ เชื่อมทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่" ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 พ.ย. 2025
Customer Experience (CX) 2.0: ทำไมการบริการ "หลังการขาย" ถึงสำคัญกว่า "ก่อนการขาย" ในยุคนี้
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
ร่วมมือ.jpg Contact Center
12 พ.ย. 2025
Sales Enablement: อาวุธลับที่ฝ่ายการตลาดสร้างให้ฝ่ายขาย เพื่อปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้" ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ