Music Marketing เพลงติดหู จากแบรนด์ดัง สูตรลับความสำเร็จของการตลาดเพลง
อัพเดทล่าสุด: 27 ม.ค. 2025
413 ผู้เข้าชม

Music Marketing เพลงติดหู จากแบรนด์ดัง สูตรลับความสำเร็จของการตลาดเพลง
เพลงโฆษณาที่ติดหูจนเราต้องร้องตามไปด้วยนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการวางแผนทางการตลาดที่รอบคอบของแบรนด์ต่างๆ ลองมาดูกันว่าเบื้องหลังเพลงโฆษณาที่เราคุ้นเคยเหล่านั้น มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ทำไมเพลงโฆษณาถึงติดหู?
- ทำนองที่เรียบง่ายและน่าจดจำ: เพลงโฆษณาที่ประสบความสำเร็จมักจะมีทำนองที่เรียบง่ายแต่ติดหู ทำให้เราจำได้ง่าย
- เนื้อร้องที่สั้น กระชับ และตรงประเด็น: เนื้อร้องจะเน้นย้ำข้อความหลักของแบรนด์และสินค้า
- การใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: ภาษาที่ใช้จะต้องเข้าใจง่ายและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
- การผสมผสานกับภาพ: เพลงโฆษณาจะถูกนำไปประกอบกับภาพที่สวยงามและน่าสนใจ ทำให้เกิดความประทับใจ
- การใช้ซ้ำ: การนำเพลงโฆษณาไปใช้ซ้ำๆ บ่อยๆ จะทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างเพลงโฆษณาที่ติดหู
- "กินสุกี้ กิน MK" เพลงนี้ใช้ทำนองเพลงญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จัก ทำให้คนส่วนใหญ่ร้องตามได้ง่าย
- "Feel Good" ของ DTAC เพลงนี้มีเนื้อร้องที่สื่อถึงความรู้สึกของวัยรุ่น ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี
- "เพียว เครื่องกรองน้ำต้องเพียว" เพลงนี้ใช้ทำนองที่เรียบง่ายแต่ติดหู และเน้นย้ำคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์
ประโยชน์ของเพลงโฆษณาที่ติดหู
- สร้างการรับรู้แบรนด์: ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำได้ง่ายขึ้น
- สร้างความผูกพันกับแบรนด์: เพลงโฆษณาสามารถสร้างความรู้สึกที่ดีและความผูกพันกับแบรนด์
- เพิ่มยอดขาย: เพลงที่ติดหูจะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคอยากซื้อสินค้ามากขึ้น
เทคนิคการสร้างเพลงโฆษณาที่ติดหู
- เลือกทำนองที่เหมาะสม: ทำนองเพลงควรจะสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
- เนื้อร้องที่สั้น กระชับ และจำง่าย: เนื้อร้องควรเน้นย้ำข้อความหลักของแบรนด์และง่ายต่อการจดจำ
- ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายและเป็นกันเอง
- ผสมผสานกับภาพที่น่าสนใจ: ภาพที่ใช้ประกอบเพลงควรมีความสวยงามและสอดคล้องกับเนื้อเพลง
- ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย: ก่อนที่จะนำเพลงโฆษณาไปเผยแพร่ ควรทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อดูว่าได้รับการตอบรับอย่างไร
ในยุคดิจิทัล การทำเพลงโฆษณามีความหลากหลายมากขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI เข้ามาช่วยในการสร้างสรรค์เพลง และมีการนำเพลงโฆษณาไปเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่"
ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
14 พ.ย. 2025
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
12 พ.ย. 2025
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย
ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้"
ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
10 พ.ย. 2025
BANKKUNG

Contact Center

