แชร์

ทฤษฎีการสร้างสื่อวิดีโอ

อัพเดทล่าสุด: 15 ต.ค. 2024
6039 ผู้เข้าชม

การสร้างสื่อวิดีโอมีทฤษฎีและหลักการหลายอย่างที่ช่วยให้การผลิตมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ นี่คือแนวทางหลักๆ ที่สำคัญ

ทฤษฎีการเล่าเรื่อง (Storytelling Theory)

  • การสร้างโครงเรื่องที่น่าสนใจ โดยมีจุดเริ่มต้น การพัฒนา และจุดสิ้นสุด ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมและเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น

ทฤษฎีการรับรู้ (Perception Theory)

  • เข้าใจวิธีที่ผู้ชมรับรู้และตีความเนื้อหา เช่น การใช้สี เสียง และภาพเพื่อกระตุ้นความสนใจและอารมณ์

การผลิตและการตัดต่อ (Production and Editing Theory)

  • การเลือกใช้เทคนิคการถ่ายทำและการตัดต่อที่เหมาะสม เช่น การจัดองค์ประกอบภาพ การเคลื่อนไหวของกล้อง และการสร้างจังหวะที่ดีในวิดีโอ

ทฤษฎีการสื่อสารด้วยภาพ (Visual Communication Theory)

  • การใช้ภาพเพื่อสื่อสารข้อมูล โดยคำนึงถึงองค์ประกอบ เช่น รูปแบบ สี และการจัดเรียง เพื่อสร้างความชัดเจนและดึงดูดความสนใจ

ทฤษฎีสื่อใหม่ (New Media Theory)

  • ศึกษาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตและเผยแพร่สื่อวิดีโอ เช่น การใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์

  โลกธุรกิจในยุคดิจิทัลที่การตัดสินใจของลูกค้าอยู่บนปลายนิ้วที่เลื่อนผ่านสื่อต่างๆ ไปอย่างรวดเร็วจนกว่าจะเจอคอนเทนต์ที่น่าสนใจ จนทำให้ Video Content เป็นรูปแบบสื่อที่ได้รับความนิยมในการรับชมมากที่สุด เนื่องจากสามารถสร้าง Engagement ให้กับคนดูมากกว่าคอนเทนต์แบบอื่น การจะทำให้ Video Content ได้รับความสนใจในการกดรับชมจากลูกค้า

 เปลี่ยนจากการสร้าง Storytelling เป็น Story selling

  การทำ Video Content ผ่านการเล่าเรื่องในแบบ Storytelling จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการรับชม แต่บ่อยครั้งมักจะพบว่าลูกค้าไม่ทราบว่าต้องการขายอะไร จดจำแบรนด์สินค้าไม่ได้ บ้างก็บอกว่าดูจบแล้วไม่เห็นเกี่ยวกับแบรนด์สินค้า จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถขายของให้น่าสนใจ ผ่าน Video Content ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ เอ็ด 7 วิ ที่สร้างสรรค์ผลงานการโฆษณาออกมาได้น่าสนใจ

นำเสนอ Video Content ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร

  Video Content ที่น่าสนใจ ควรมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า หรือ ธุรกิจของเรา ในทุกๆ ครั้งที่มีการนำเสนอออกไป เพื่อสร้างการจดจำในฝั่งของลูกค้าให้สามารถจดจำแบรนด์ของเราได้ทันทีที่เห็น หรือ ได้ยินเสียงดนตรีประกอบ ตัวอย่าง บูม ธริศร Youtuber ชื่อดังของเมืองไทย ที่มีเอกลักษณ์ในการนำเสนอ Video Content ที่ชัดเจน เน้นความหรูหรา เรียบหรู โดยหนึ่งในคลิปที่ได้รับความนิยมในการรับชม คือ การพาไปชมตึกมหานคร

ความสม่ำเสมอในการอัพเดท Video Content

  การที่เราลง Video Content อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า แต่ยังช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ธุรกิจของเรา ให้กลุ่มลูกค้านึกถึงสินค้าของเราอยู่ตลอดเวลา และเมื่อถึงช่วงเวลาที่ลูกค้าเกิดความต้องการ หรือ เกิดความสนใจที่อยากจะซื้อสินค้า ถึงเวลานั้นลูกค้าจะกลับมาค้นหาจากชื่อที่ลูกค้านึกถึง

ระยะเวลาของ Video Content ให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทางที่นำเสนอ

  บ่อยครั้งที่ธุรกิจ SME มักจะคิดว่าลงมือทำ Video Content ขึ้นมา 1 ชิ้นงาน จากนั้นนำไปลงในทุกๆ ช่องทางที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtube หรือจะเป็นเว็ปไซต์ของธุรกิจเอง แต่การทำเช่นนั้น อาจทำให้ลูกค้าเลือกที่จะเลื่อนผ่านไป แทนที่จะกดเข้าไปรับชม สุดท้าย Video Content ก็ไม่สามารถสื่อสารไปถึงกลุ่มลูกค้าได้ ดังนั้น Video Content ที่ดีควรปรับรูปแบบการนำเสนอ และระยะเวลาให้เหมาะสมกับช่องทางที่ต้องการสื่อสาร ตัวอย่างเช่น Video Content  ของ Workpoint ที่จะมีการนำเสนอรายการเต็มผ่านช่องทาง Youtube แต่จะตัดต่อ Video Content  เป็นคลิปสั้นๆ ลง Facebook

การนำ Insight ของลูกค้ามาถ่ายทอดผ่าน Video Content

  เทคนิคข้อสุดท้ายที่หลายธุรกิจมองข้าม คือ การ Research ข้อมูล Insight ของลูกค้าแล้วนำมาถ่ายทอดผ่าน Video Content ซึ่งวิธีดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการรับชม แต่ยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกคล้อยตามไปกับเรื่องราวใน Video จนนำไปสู่กระบวนการตัดสินใจซื้อในที่สุด หนึ่งในตัวอย่างการถ่ายทอดเรื่องราว Insight ของลูกค้าผ่าน Video Content ที่น่าสนใจจนกลายเป็น Viral คือ โฆษณา GQWhite ที่สุดแห่งเสื้อขาว

 

 

 

BY : NUN 

ที่มา : blog.fastwork.co/5-trick-video-content/


บทความที่เกี่ยวข้อง
Omnichannel Experience: สร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ เชื่อมทุกช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
ในยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกและช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและบริการมากมายมหาศาล พวกเขาไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้อยู่แค่ในร้านค้า และก็ไม่ได้อยู่แค่ในแอปมือถืออีกต่อไป แต่พวกเขาอยู่ "ทุกที่" ลองนึกภาพตาม: ลูกค้าเห็นโฆษณาสินค้าของคุณใน Instagram (ออนไลน์) คลิกไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ (ออนไลน์) เพิ่มสินค้าลงตะกร้า แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ วันต่อมา เขาเดินผ่านหน้าร้านของคุณ (ออฟไลน์) และนึกขึ้นได้ จึงตัดสินใจเข้าไปดูสินค้าจริง พนักงานที่ร้านสามารถดึงข้อมูลตะกร้าสินค้าที่เขาค้างไว้ในเว็บขึ้นมาได้ทันที และเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อ... นี่คือพลังของ Omnichannel Experience
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 พ.ย. 2025
Customer Experience (CX) 2.0: ทำไมการบริการ "หลังการขาย" ถึงสำคัญกว่า "ก่อนการขาย" ในยุคนี้
ในโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม (CX 1.0) การเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมักเกิดขึ้นเมื่อ "ปิดการขาย" ได้สำเร็จ ฝ่ายการตลาดทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อหาลูกค้าใหม่ (Pre-Sales) ฝ่ายขายทุ่มเททุกกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นผู้ซื้อ และเมื่อธุรกรรมสิ้นสุดลง ภารกิจก็ดูเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์
ร่วมมือ.jpg Contact Center
12 พ.ย. 2025
Sales Enablement: อาวุธลับที่ฝ่ายการตลาดสร้างให้ฝ่ายขาย เพื่อปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ในหลายองค์กร เรามักเห็นภาพความขัดแย้งเล็กๆ (หรือบางทีก็ไม่เล็ก) ระหว่างทีมการตลาดและทีมขาย ฝ่ายขายบ่นว่า: "การตลาดหา Lead มาไม่ดีเลย ไม่มีคุณภาพ" หรือ "คอนเทนต์ที่ทำมาก็ใช้ขายงานจริงไม่ได้" ฝ่ายการตลาดบ่นว่า: "อุตส่าห์ทำคอนเทนต์ดีๆ ไปให้ แต่ฝ่ายขายไม่เคยเปิดใช้" หรือ "Lead ที่ให้ไปก็ไม่ยอมตาม"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ