แชร์

เมื่อทีมขายและการตลาดไม่ใช่ "ไม้เบื่อไม้เมา" แต่ต้องเป็น "เนื้อเดียวกัน" เพื่อเป้าหมายรายได้

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 24 ธ.ค. 2025
13 ผู้เข้าชม

เลิกเป็นไม้เบื่อไม้เมา! เมื่อทีม Sales & Marketing ผนึกกำลังเป็น "เนื้อเดียวกัน" เพื่อเป้าหมายรายได้
"ฝ่ายการตลาดส่งรายชื่อลูกค้าอะไรมา? โทรไปก็ไม่รับ ปิดการขายไม่ได้เลย!" "ฝ่ายขายทำงานยังไง? อุตส่าห์หา Lead มาให้ตั้งเยอะ แต่ไม่ยอมตามลูกค้า ปล่อยให้หลุดมือ!"

คุ้นๆ ไหมครับ? นี่คือบทสนทนาสุดคลาสสิกที่เกิดขึ้นในห้องประชุมของหลายบริษัท อาการ "ไม้เบื่อไม้เมา" ระหว่าง ทีมขาย (Sales) และ ทีมการตลาด (Marketing) คือปัญหาใหญ่ที่ฉุดรั้งการเติบโตของธุรกิจ เพราะต่างฝ่ายต่างทำงานใน Silo ของตัวเอง และมีตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ที่สวนทางกัน

แต่ในโลกธุรกิจยุคใหม่ที่พฤติกรรมลูกค้าซับซ้อนขึ้น เส้นแบ่งระหว่างการตลาดและการขายเริ่มจางหายไป ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสองทีมต้องเลิกทะเลาะกัน และหันมาเป็น "เนื้อเดียวกัน" ภายใต้แนวคิด Smarketing (Sales + Marketing)

วันนี้เราจะพาไปดูว่า การผนึกกำลังครั้งนี้จะช่วยกู้วิกฤตและสร้างรายได้ให้บริษัทได้อย่างไรครับ


1. เปลี่ยน Mindset: เราอยู่ทีมเดียวกัน คือ "ทีมรายได้" (Revenue Team)
สิ่งแรกที่ต้องทำลายคือกำแพงที่กั้นระหว่างแผนก เลิกคิดว่า "หน้าที่ฉันจบแค่นี้"

การตลาด: ไม่ได้มีหน้าที่แค่โพสต์รูปสวยๆ หรือหาคนกด Like แต่มีหน้าที่ "สร้างโอกาสการขายที่มีคุณภาพ"
การขาย: ไม่ได้มีหน้าที่แค่รับออเดอร์ แต่ต้อง "ป้อนข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า" กลับไปให้การตลาด
เป้าหมายสูงสุดของทั้งคู่ต้องเหมือนกัน นั่นคือ "รายได้ของบริษัท" เมื่อมองเห็นเป้าหมายเดียวกัน การเกี่ยงงานจะลดลง และการช่วยเหลือกันจะเพิ่มขึ้น

2. กำหนดคำนิยาม "ลูกค้าคุณภาพ" (Qualified Lead) ให้ตรงกัน
สาเหตุที่ทะเลาะกันบ่อยที่สุดคือ "คุณภาพของ Lead"

Marketing อาจมองว่าใครที่กรอกอีเมลเข้ามาคือนับเป็น Lead หมด
Sales อาจมองว่าต้องเป็นคนที่พร้อมควักเงินจ่ายเดี๋ยวนี้ ถึงจะเรียกว่า Lead
ทางแก้คือต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อกำหนด Lead Scoring ให้ชัดเจนว่า พฤติกรรมแบบไหนคือ MQL (Marketing Qualified Lead) ที่พร้อมส่งต่อให้เซลล์ และแบบไหนที่เซลล์ต้องตีกลับไปให้การตลาดฟูมฟักต่อ (Nurture) การตกลงกันให้ชัดเจนจะช่วยลดเวลาที่ฝ่ายขายต้องเสียไปกับลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย

3. สร้าง Feedback Loop: ข้อมูลต้องไหลเวียน
การทำงานที่เป็นเนื้อเดียวกัน ต้องมีการสื่อสารตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ตอนประชุมรายเดือน

Sales ต้องบอก Marketing: ว่าลูกค้าถามคำถามอะไรบ่อยๆ? ลูกค้ากังวลเรื่องอะไร? เพื่อให้การตลาดนำไปทำ Content ตอบโจทย์
Marketing ต้องบอก Sales: ว่าแคมเปญช่วงนี้เน้นโปรโมชั่นอะไร? ลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาจากช่องทางไหน? เพื่อให้เซลล์เปิดบทสนทนาได้ถูกจุด


4. เทคโนโลยีคือสะพานเชื่อม (CRM Integration)
ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เห็นภาพเดียวกัน เช่น ระบบ CRM ที่เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างโฆษณากับสถานะการขาย เมื่อฝ่ายการตลาดเห็นว่า Lead ที่ส่งไปสามารถปิดการขายได้จริง (Closed-Won) พวกเขาจะรู้ทันทีว่าต้องไปหาลูกค้าแบบนี้เพิ่มจากไหน เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบโฆษณาที่แม่นยำที่สุด


สรุป: สามัคคีคือ "กำไร"
เมื่อ Sales และ Marketing เลิกเป็นศัตรูและหันมาเป็นพันธมิตร ธุรกิจของคุณจะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าคู่แข่ง ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ลื่นไหลตั้งแต่เห็นโฆษณาไปจนถึงปิดการขาย และผลลัพธ์สุดท้ายคือ "ยอดขายที่เติบโตอย่างยั่งยืน"

และการทำงานที่ราบรื่น ไม่ได้จำกัดแค่ภายในองค์กรเท่านั้น การเลือก "พาร์ทเนอร์ภายนอก" โดยเฉพาะด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ทำงานเข้าขากับทีมของคุณได้เป็นอย่างดี ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญที่จะช่วยส่งมอบความประทับใจสุดท้ายให้ถึงมือลูกค้าครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง
"ส่องเทรนด์โลจิสติกส์ปี 2026: Green Logistics และรถ EV จะมาเปลี่ยนโลกขนส่งยังไง?"
โลกเปลี่ยน ธุรกิจต้องปรับ! เจาะลึกเทรนด์ Green Logistics ปี 2026 ทำไมรถบรรทุก EV และการลดคาร์บอนถึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ SME และโรงงานต้องรู้ เตรียมพร้อมก่อนใครกับ BS Express
ผึ้ง เด็กฝึกงาน
24 ธ.ค. 2025
ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise): ส่งวัตถุดิบให้สาขาทั่วประเทศยังไงให้มาตรฐานเดียวกันเป๊ะ?
สาขาเชียงใหม่ "ปัง" แต่สาขาภูเก็ต "พัง"...เพราะอะไร? หัวใจของธุรกิจแฟรนไชส์ ไม่ใช่แค่การมีป้ายชื่อร้านเหมือนกัน แต่คือ "มาตรฐาน" (Standardization) ลูกค้าคาดหวังว่า ไม่ว่าจะเดินเข้าสาขาไหน รสชาติกาแฟต้องเหมือนเดิม ความกรอบของไก่ทอดต้องเท่าเดิม และบรรจุภัณฑ์ต้องดูดีไม่มีรอยบุบ แต่ปัญหาโลกแตกที่เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเจอคือ "การกระจายสินค้า" (Distribution) ส่งของไปไม่ทัน สาขาของขาดต้องไปซื้อวัตถุดิบตลาดนัดมาแก้ขัด (รสชาติเพี้ยนทันที), ส่งแล้วของแตกเสียหายระหว่างทาง, หรือค่าส่งแพงจนสาขาบ่นอุบ... ปัญหาเหล่านี้คือ "ระเบิดเวลา" ที่ทำลายชื่อเสียงแบรนด์ที่คุณสร้างมากับมือ วันนี้ BS Express จะพาคุณไปดูเบื้องหลังการจัดการระบบขนส่ง (Logistics) ที่แฟรนไชส์เจ้าดังใช้ เพื่อคุมมาตรฐานให้ "เป๊ะ" ทุกสาขาทั่วไทย!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
24 ธ.ค. 2025
มาตรการป้องกันสินค้าสูญหายระหว่างทางของ BS Group
ส่งของกับ BS Group มั่นใจแค่ไหน? เจาะลึกมาตรการ "ป้องกันสินค้าสูญหาย" ที่เข้มงวดที่สุด
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
24 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ