แชร์

The End of Cookies: เมื่อ Data หายไป นักการตลาดยุคใหม่ต้องหาลูกค้าอย่างไร?

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 23 ธ.ค. 2025
29 ผู้เข้าชม
The End of Cookies: เมื่อ Data หายไป นักการตลาดยุคใหม่ต้องหาลูกค้าอย่างไร?
"Cookie" ในโลกออนไลน์ที่ไม่ใช่ขนมหวาน กำลังจะถึงจุดจบ... และนี่คือฝันร้ายที่นักการตลาดดิจิทัลทั่วโลกกำลังเผชิญ

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เราคุ้นเคยกับการใช้ Third-Party Cookies ในการติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคข้ามเว็บไซต์ เพื่อยิงโฆษณาแบบติดตาม (Retargeting) ที่แม่นยำราวจับวาง แต่เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Google Chrome ประกาศยกเลิกการรองรับ Third-Party Cookies (ตามรอย Safari และ Firefox ที่ทำไปก่อนหน้านี้) เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

คำถามใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ "เมื่อ Data ที่เคยใช้ง่ายๆ หายไป นักการตลาดยุคใหม่จะหาลูกค้าเจอได้อย่างไรในโลกที่ไร้คุกกี้ (Cookieless World)?"

บทความนี้จะพาคุณไปพบกับทางรอดและกลยุทธ์ใหม่ ที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่ยั่งยืนกว่าเดิมครับ


ผลกระทบเมื่อ Third-Party Cookies หายไป?
Third-Party Cookies คือข้อมูลที่ถูกสร้างโดยเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เว็บไซต์ที่เรากำลังใช้งานอยู่ (เช่น แพลตฟอร์มโฆษณา) ทำให้สามารถติดตามประวัติการท่องเว็บของเราได้

เมื่อสิ่งนี้หายไป ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดคือ:

การทำ Retargeting ยากขึ้น: การยิงแอด "ตามหลอน" ลูกค้าที่เคยเข้าเว็บแต่ยังไม่ซื้อ จะทำได้ไม่แม่นยำเหมือนเดิม
การวัดผลโฆษณา (Attribution) ไม่แม่นยำ: ยากที่จะรู้ว่าลูกค้าที่ซื้อของ เกิดจากการเห็นโฆษณาตัวไหนใน Journey ของพวกเขา
ต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ (CAC) อาจสูงขึ้น: เมื่อการยิงแอดแบบหว่านแหไม่มีประสิทธิภาพเท่าการยิงแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

3 กลยุทธ์ทางรอดของนักการตลาดยุค Cookieless World
อย่ายอมแพ้ครับ! เพราะการสิ้นสุดของ Cookies ไม่ใช่จุดจบของการตลาด แต่มันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่วิธีการที่ดีกว่า นี่คือ 3 กลยุทธ์ที่คุณต้องเริ่มทำทันที:

1. หันมาเก็บ "First-Party Data" คือขุมทรัพย์ใหม่ที่สำคัญที่สุด
ในเมื่อพึ่งพาข้อมูลจากคนอื่น (Third-Party) ไม่ได้แล้ว ก็ถึงเวลาต้องสร้างฐานข้อมูลของตัวเอง!

First-Party Data คือข้อมูลที่คุณเก็บจากลูกค้าโดยตรงด้วยความยินยอม (Consent) ผ่านช่องทางของคุณเอง เช่น:

การสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์
ประวัติการสั่งซื้อสินค้า (Purchase History)
ข้อมูลจากระบบ CRM
การทำแบบสอบถาม หรือ Quiz เพื่อเก็บความสนใจของลูกค้า (Zero-Party Data)
ข้อดี: ข้อมูลนี้มีความแม่นยำสูง เป็นของคุณเอง 100% และถูกต้องตามกฎหมาย PDPA/GDPR คุณสามารถนำข้อมูลนี้มาวิเคราะห์เพื่อสร้างแคมเปญที่ตรงใจลูกค้า (Personalization) ได้ดียิ่งกว่าเดิมเสียอีก

2. กลับสู่สามัญด้วย "Contextual Targeting"
ในยุคที่ยังไม่มีคุกกี้ เรายิงโฆษณาโดยดูจาก "บริบท" ของเนื้อหา กลยุทธ์นี้กำลังกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

Contextual Targeting คือการแสดงโฆษณาให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังรับชมอยู่ในขณะนั้น แทนที่จะสนใจว่าผู้ใช้คนนั้นเป็นใคร เช่น:

หากคุณขายอุปกรณ์กีฬา คุณก็เลือกลงโฆษณาในเว็บไซต์ข่าวสารฟุตบอล หรือบล็อกรีวิวรองเท้าวิ่ง
หากคุณให้บริการขนส่ง คุณอาจไปปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดพูดคุยเรื่อง E-commerce หรือการนำเข้า-ส่งออก
วิธีนี้ทำให้โฆษณาดูมีความเกี่ยวข้องและไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวจนเกินไป

3. ใช้ประโยชน์จาก "Walled Gardens" และเทคโนโลยีใหม่ๆ
แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ (Walled Gardens) อย่าง Facebook (Meta), Google, TikTok, หรือ LINE ยังคงมีข้อมูลผู้ใช้งานมหาศาลอยู่ในมือ (ซึ่งถือเป็น First-Party Data ของแพลตฟอร์มนั้นๆ)

นักการตลาดจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้เครื่องมือใหม่ๆ ที่แพลตฟอร์มเหล่านี้พัฒนาขึ้นเพื่อทดแทน Cookies เช่น:

Facebook Conversion API (CAPI): การส่งข้อมูลจาก Server ของเราไปยัง Facebook โดยตรง แทนการใช้ Browser Pixel
Google Privacy Sandbox: โซลูชันใหม่ของ Google ที่พยายามสร้างสมดุลระหว่างการยิงโฆษณากับการรักษาความเป็นส่วนตัว

สรุป: ปรับตัวก่อน ชนะก่อน
The End of Cookies ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นสัญญาณเตือนให้นักการตลาดเลิกพึ่งพาวิธีการเดิมๆ ที่ง่ายแต่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว และหันมาสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้าผ่านการบริหารจัดการ First-Party Data อย่างมีประสิทธิภาพ
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง การปรับตัวได้เร็วกว่า คือกุญแจสู่ความอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด หรือแม้กระทั่งเรื่องการขนส่งโลจิสติกส์ ที่ต้องรวดเร็ว แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์เช่นเดียวกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมค่าส่งแต่ละเจ้าไม่เท่ากัน? : แบไต๋โครงสร้างราคาขนส่ง (น้ำหนัก vs ปริมาตร vs ระยะทาง)
กล่องเท่ากัน แต่ทำไมราคาต่างกันฟ้ากับเหว? เคยไหมครับ? ถือกล่องพัสดุใบเดิม ไปส่งที่ขนส่งเจ้าสีแดง ราคา 50 บาท พอไปอีกเจ้าสีส้ม ราคา 80 บาท แต่พอไปส่งขนส่งรถสิบล้อ ราคาเหลือแค่ 40 บาท! หลายคนคิดว่าการตั้งราคาค่าส่งเป็นเรื่องของการตลาด (ใครจัดโปรฯ ถูกกว่าก็ชนะ) แต่ความจริงแล้ว เบื้องหลังตัวเลขเหล่านั้นมี "สมการคณิตศาสตร์" ซ่อนอยู่ครับ วันนี้ BS Express จะมา "แบไต๋" โครงสร้างราคาขนส่งแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเงินที่คุณจ่ายไป ถูกนำไปคำนวณจากอะไรบ้าง และจะเลือกขนส่งแบบไหนให้ประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: หัวใจของการบริการที่ยั่งยืน
จรรยาบรรณวิชาชีพขนส่ง: กุญแจสำคัญสู่ความเชื่อมั่นและการบริการที่ยั่งยืน
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
27 ธ.ค. 2025
ป้ายห้ามโยน/ห้ามทับ (Fragile Label) แปะตรงไหนคนยกถึงจะเห็นชัดที่สุด?
แปะป้าย "ระวังแตก" แล้วทำไมของยังพัง? เผยเทคนิคการแปะสติ๊กเกอร์ Fragile / ห้ามโยน ที่ถูกต้อง แปะตรงไหนให้พนักงานขนส่งเห็นชัดที่สุด 360 องศา ลดโอกาสความเสียหายได้จริง
27 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ