COD (เก็บเงินปลายทาง): ดาบสองคมของคนขายของออนไลน์ (วิธีคัดกรองลูกค้าไม่ให้ปฏิเสธรับของ)

COD (เก็บเงินปลายทาง): ดาบสองคมของคนขายออนไลน์ พร้อมวิธีคัดกรองลูกค้าไม่ให้ปฏิเสธรับของ!
"มีบริการเก็บเงินปลายทางไหมคะ?" ประโยคยอดฮิตที่ทำเอาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคน "ใจฟู" เพราะหมายถึงยอดขายที่กำลังจะเข้ามา แต่ในขณะเดียวกันก็ "ใจแฟบ" เพราะกังวลว่า... ส่งไปแล้วลูกค้าจะรับของไหมนะ?
ในตลาด E-commerce ไทย การมีบริการ COD (Cash On Delivery) หรือ เก็บเงินปลายทาง ถือเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะช่วยเพิ่มโอกาสการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่ยังไม่เชื่อใจร้าน หรือไม่สะดวกโอนเงิน แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอครับ
วันนี้ BS Express จะพามาดูว่า ทำไม COD ถึงเป็น "ดาบสองคม" และเราจะมีวิธีป้องกันตัวเองด้วยการ "คัดกรองลูกค้า" อย่างไร ไม่ให้เจ็บตัวจากค่าส่งฟรีๆ ครับ
ทำไม COD ถึงเป็น "ดาบสองคม"?
คมด้านดี (เพิ่มยอดขาย): ช่วยปิดการขายได้ง่ายขึ้น เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือแอปฯ เป๋าตัง สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อหน้าใหม่
คมด้านร้าย (ต้นทุนจม): นี่คือฝันร้ายของคนขายครับ! เมื่อลูกค้าสั่งเล่นๆ, เปลี่ยนใจไม่อยากได้แล้ว, หรือไม่อยู่รับของ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ:
เสียค่าแพ็คเกจจิ้งฟรี (กล่อง, บับเบิ้ล, เทปกาว)
เสียค่าจ้างพนักงานแพ็คของ
เจ็บที่สุดคือ "เสียค่าส่งฟรี ทั้งขาไป-ขากลับ" (บางขนส่งคิดค่าตีกลับ)
สินค้าค้างสต็อก หรือเสียหายระหว่างเดินทางไป-กลับ
4 วิธีคัดกรองลูกค้า COD "ก่อนส่ง" (ไม่ให้เจ็บตัวทีหลัง)
การป้องกันที่ดีที่สุด คือการไม่ส่งของให้กับออเดอร์ที่มีความเสี่ยงสูงตั้งแต่แรกครับ นี่คือเทคนิคที่คุณทำได้ทันที:
1. โทรคอนเฟิร์มก่อนส่ง (สำคัญที่สุด!) สำหรับออเดอร์ COD โดยเฉพาะยอดเงินสูงๆ หรือลูกค้าใหม่ การเสียเวลาโทรหาลูกค้าสัก 1 นาที คุ้มค่ามากครับ
วิธีเช็ค: โทรไปแจ้งว่า "ขอยืนยันออเดอร์เก็บเงินปลายทางครับ สะดวกรับสายขนส่งช่วงวัน... ไหมครับ?"
สิ่งที่ได้: ถ้ารับสายและพูดคุยรู้เรื่อง แสดงว่ามีตัวตนจริง แต่ถ้าโทรไม่ติด, เบอร์ปลอม, หรือบ่ายเบี่ยงไม่อยากคุย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีความเสี่ยงสูง
2. เช็คที่อยู่ให้ชัวร์ (ห้ามขาด ห้ามเกิน) ออเดอร์ผีมักจะมาพร้อมที่อยู่ที่ "ไม่สมบูรณ์" ครับ
วิธีเช็ค: ดูว่ามี บ้านเลขที่, หมู่, ตำบล/แขวง, อำเภอ/เขต และรหัสไปรษณีย์ครบถ้วนหรือไม่ ถ้ามาแค่ "บ้านสีฟ้า หลังวัดดอน" แบบนี้เสี่ยงมากครับ ขนส่งหาไม่เจอแน่นอน และลูกค้าอาจตั้งใจให้หาไม่เจอ
3. สังเกตพฤติกรรมการสั่งซื้อที่ผิดปกติ
ชื่อปลอม: ใช้ชื่อแปลกๆ ที่ไม่ใช่ชื่อคน เช่น "เทพซ่า 007", "ไม่บอก จะทำไม"
สั่งเยอะผิดปกติ: สั่งของชิ้นเดิมซ้ำๆ 10 ชิ้น แบบ COD โดยไม่ทักมาถามรายละเอียดเลย (อาจเป็นคู่แข่งแกล้งสั่ง หรือเด็กกดเล่น)
4. ตั้งกฎเหล็กของร้านค้า อาจกำหนดนโยบายเพื่อลดความเสี่ยง เช่น
"สินค้าสั่งทำพิเศษ (Custom made) ไม่รับ COD"
"ยอดสั่งซื้อต่ำกว่า 200 บาท หรือเกิน 5,000 บาท ไม่รับ COD" (เพื่อคัดกรองลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริงๆ หรือป้องกันความเสียหายหากยอดสูงเกินไป)
อีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ: "บริษัทขนส่ง" ที่คุณเลือก!
รู้ไหมครับว่า บางครั้งลูกค้าตั้งใจจะรับของ แต่เปลี่ยนใจเพราะ "ขนส่ง"? เช่น ขนส่งดองของนานหลายวันจนลูกค้าไม่อยากได้แล้ว, พนักงานส่งพูดจาไม่ดี, หรือไม่โทรหาก่อนเข้าไปส่ง ทำให้ลูกค้าไม่อยู่บ้าน
BS Express ช่วยเพิ่มอัตราสำเร็จของ COD ได้อย่างไร? การเลือกใช้ขนส่งมืออาชีพอย่าง BS Express ช่วยลดปัญหานี้ได้ครับ เพราะ:
ส่งไว ตรงเวลา: ลดโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจระหว่างรอของ
พนักงานสุภาพ: มีการโทรนัดหมายลูกค้าล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ
ติดตามสถานะได้ชัดเจน: ทั้งคนขายและคนซื้อรู้ว่าของถึงไหนแล้ว
สรุป: การทำธุรกิจออนไลน์ การมี COD เป็นสิ่งจำเป็น แต่ "การคัดกรอง" สำคัญยิ่งกว่า อย่าปล่อยให้ดาบสองคมนี้กลับมาทำร้ายธุรกิจของคุณนะครับ!
ผึ้ง เด็กฝึกงาน

Contact Center

