Underpositioning เมื่อแบรนด์ไม่โดดเด่นในใจลูกค้า
อัพเดทล่าสุด: 21 มี.ค. 2025
395 ผู้เข้าชม

Underpositioning: เมื่อแบรนด์ไม่โดดเด่นในใจลูกค้า
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจในวงการการตลาด นั่นก็คือ Underpositioning ครับ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า "Positioning" หรือ "การวางตำแหน่งแบรนด์" กันดีอยู่แล้ว แต่ "Underpositioning" คืออะไร? เรามาดูกันครับ
Underpositioning คืออะไร?
Underpositioning คือ สถานการณ์ที่แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ไม่สามารถสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนในใจลูกค้าได้ ทำให้ลูกค้าไม่สามารถจดจำหรือระบุคุณสมบัติเด่นของแบรนด์ได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ทำไม Underpositioning ถึงเกิดขึ้น?
- ขาดความแตกต่าง: แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกับคู่แข่งมากเกินไป ทำให้ลูกค้าไม่เห็นถึงความแตกต่าง
- การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน: แบรนด์ไม่ได้สื่อสารจุดเด่นของตัวเองอย่างชัดเจน ทำให้ลูกค้าไม่เข้าใจว่าแบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
- การตลาดแบบ "ใครๆ ก็ทำได้": แบรนด์พยายามที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทำให้ขาดความชัดเจนในกลุ่มเป้าหมายหลัก
- การขาดการวิจัยตลาด: แบรนด์ไม่ได้ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียด ทำให้ไม่เข้าใจถึงความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า
ผลกระทบของ Underpositioning
- ความสับสนของลูกค้า: ลูกค้าไม่สามารถจดจำหรือระบุคุณสมบัติเด่นของแบรนด์ได้ ทำให้เกิดความสับสนในการตัดสินใจซื้อ
- การแข่งขันด้านราคา: เมื่อแบรนด์ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อจากราคาเป็นหลัก ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
- ความภักดีต่อแบรนด์ต่ำ: ลูกค้าไม่มีความผูกพันกับแบรนด์ ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนไปใช้แบรนด์คู่แข่ง
- โอกาสในการเติบโตจำกัด: แบรนด์ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ ทำให้ยากต่อการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
วิธีป้องกัน Underpositioning
- สร้างความแตกต่างที่ชัดเจน: กำหนดจุดเด่นของแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน และสื่อสารไปยังลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน: เลือกกลุ่มเป้าหมายหลัก และมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนั้น
- ทำการวิจัยตลาดอย่างละเอียด: ศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาแบรนด์และผลิตภัณฑ์
- สร้างแบรนด์สตอรี่ที่น่าสนใจ: เล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่สร้างความผูกพันกับลูกค้า และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
สรุป
Underpositioning เป็นปัญหาที่ธุรกิจควรให้ความสำคัญ การสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้แบรนด์สามารถหลีกเลี่ยง Underpositioning และสร้างความสำเร็จในตลาดได้
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
จบปัญหา "มาส่งตอนไม่อยู่" สู่ยุคที่ "ลูกค้าเป็นคนคุมเกม"
เคยไหมครับ? สั่งของไปแล้วต้องมานั่งลุ้นว่าขนส่งจะโทรมาตอนไหน พอโทรมาก็ดันติดประชุม หรือพอของมาถึงก็ไม่มีคนอยู่บ้านจนต้องตีของกลับ... นี่คือ Pain Point คลาสสิกที่ทำลายประสบการณ์การซื้อของออนไลน์มานานนับสิบปี
แต่ในปี 2025 ยุคที่ "ลูกค้าคือพระเจ้า" อย่างแท้จริง การขนส่งแบบเดิมที่กำหนดเวลาตายตัว (8.00 - 17.00 น.) กำลังจะตายไป และถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า "Hyper-Personalized Delivery" หรือ การขนส่งแบบรู้ใจเฉพาะบุคคล
วันนี้ BS Group จะพาคุณไปดูว่า เมื่อการตลาดและโลจิสติกส์มาเจอกัน มันจะเปลี่ยนการส่งของธรรมดา ให้กลายเป็น "บริการที่ลูกค้ารัก" ได้อย่างไร?
17 ธ.ค. 2025
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ หลายแบรนด์ทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการยิงโฆษณา การทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย หรือการจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ แต่มีจุดหนึ่งที่หลายคนมักมองข้าม—จุดที่สำคัญที่สุดเมื่อสินค้าเดินทางไปถึงมือลูกค้า นั่นคือ "วินาทีแห่งการแกะกล่อง" (The Unboxing Experience)
ทำไมกล่องพัสดุธรรมดาๆ ถึงถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "เซลส์แมนคนสุดท้าย" และเราจะเปลี่ยนกล่องกระดาษสีน้ำตาลให้กลายเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังได้อย่างไร? มาหาคำตอบกันครับ
13 ธ.ค. 2025
เคยไหม? ที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะซื้อของชิ้นนั้น แต่พอเห็นป้าย "เหลือ 2 ชิ้นสุดท้าย" หรือเพื่อนในโซเชียลเริ่มแชร์กันเต็มหน้าฟีด จู่ๆ มือของคุณก็กดสั่งซื้อไปโดยอัตโนมัติ... นี่คือกำลังของ FOMO (Fear of Missing Out) หรือ "ความกลัวที่จะตกขบวน"
ในโลกการตลาด FOMO คืออาวุธที่ทรงพลังมาก แต่ถ้าใช้ไม่เป็น มันจะกลายเป็น "ดาบสองคม" ที่ทำให้แบรนด์ดูน่ารำคาญและยัดเยียดทันที วันนี้เราจะมาเจาะลึกเทคนิคการใช้ FOMO Marketing ให้ดู Classy ดูแพง และกระตุ้นลูกค้าได้แบบแยบยลครับ
10 ธ.ค. 2025
BANKKUNG


Contact Center
