แชร์

Marketing Mix Models ไขความลับการตลาด วัดผลลัพธ์ สร้างความสำเร็จ

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 28 ก.พ. 2025
494 ผู้เข้าชม

Marketing Mix Models ไขความลับการตลาด วัดผลลัพธ์ สร้างความสำเร็จ

 

สวัสดีครับทุกคน! เคยสงสัยไหมว่าทำไมแคมเปญการตลาดบางแคมเปญถึงประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางแคมเปญกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า? คำตอบอาจอยู่ที่ Marketing Mix Models (MMM) หรือ แบบจำลองส่วนประสมทางการตลาด ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดใช้ในการวิเคราะห์และวัดผลลัพธ์ของกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ

 

Marketing Mix Models คืออะไร?

Marketing Mix Models คือ แบบจำลองทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ กับยอดขายหรือตัวชี้วัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย MMM จะช่วยให้เราเข้าใจว่ากิจกรรมทางการตลาดใดมีผลกระทบต่อยอดขายมากที่สุด และกิจกรรมใดมีประสิทธิภาพน้อยที่สุด

 

ทำไมต้องใช้ Marketing Mix Models?

  • วัดผลลัพธ์ทางการตลาด: MMM ช่วยให้เราวัดผลลัพธ์ของกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • จัดสรรงบประมาณ: MMM ช่วยให้เราจัดสรรงบประมาณทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม โดยการลงทุนในกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อยอดขายมากที่สุด
  • คาดการณ์ยอดขาย: MMM ช่วยให้เราคาดการณ์ยอดขายในอนาคต โดยการวิเคราะห์ผลกระทบของกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ
  • เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค: MMM ช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค โดยการวิเคราะห์ว่ากิจกรรมทางการตลาดใดมีผลกระทบต่อผู้บริโภคมากที่สุด

 

องค์ประกอบของ Marketing Mix Models

  • ตัวแปรทางการตลาด: เช่น งบประมาณโฆษณา โปรโมชั่น ราคา สินค้า
  • ตัวแปรภายนอก: เช่น ฤดูกาล สภาพเศรษฐกิจ คู่แข่ง
  • ตัวแปรผลลัพธ์: เช่น ยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด การรับรู้แบรนด์

 

ประเภทของ Marketing Mix Models

  • Regression Analysis: ใช้ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ
  • Time Series Analysis: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับเวลา
  • Bayesian Models: ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความไม่แน่นอน

 

ขั้นตอนการสร้าง Marketing Mix Models

  1. กำหนดวัตถุประสงค์: กำหนดวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์ เช่น ต้องการวัดผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณา
  2. รวบรวมข้อมูล: รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลยอดขาย ข้อมูลกิจกรรมทางการตลาด ข้อมูลภายนอก
  3. เลือกแบบจำลอง: เลือกแบบจำลองที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และข้อมูลที่มี
  4. วิเคราะห์ข้อมูล: วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้แบบจำลองที่เลือก
  5. สรุปผล: สรุปผลการวิเคราะห์และนำไปใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด

 

สรุป
Marketing Mix Models เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักการตลาด ที่ต้องการวัดผลลัพธ์ทางการตลาด จัดสรรงบประมาณ และคาดการณ์ยอดขาย การใช้ MMM จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


บทความที่เกี่ยวข้อง
Hyper-Personalized Delivery: มัดใจลูกค้าด้วยการขนส่งที่ "รู้ใจ" และ "เลือกได้"
จบปัญหา "มาส่งตอนไม่อยู่" สู่ยุคที่ "ลูกค้าเป็นคนคุมเกม" เคยไหมครับ? สั่งของไปแล้วต้องมานั่งลุ้นว่าขนส่งจะโทรมาตอนไหน พอโทรมาก็ดันติดประชุม หรือพอของมาถึงก็ไม่มีคนอยู่บ้านจนต้องตีของกลับ... นี่คือ Pain Point คลาสสิกที่ทำลายประสบการณ์การซื้อของออนไลน์มานานนับสิบปี แต่ในปี 2025 ยุคที่ "ลูกค้าคือพระเจ้า" อย่างแท้จริง การขนส่งแบบเดิมที่กำหนดเวลาตายตัว (8.00 - 17.00 น.) กำลังจะตายไป และถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า "Hyper-Personalized Delivery" หรือ การขนส่งแบบรู้ใจเฉพาะบุคคล วันนี้ BS Group จะพาคุณไปดูว่า เมื่อการตลาดและโลจิสติกส์มาเจอกัน มันจะเปลี่ยนการส่งของธรรมดา ให้กลายเป็น "บริการที่ลูกค้ารัก" ได้อย่างไร?
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
17 ธ.ค. 2025
The Unboxing Experience: สร้างความประทับใจแรกพบ เมื่อ "กล่องพัสดุ" คือเซลส์แมนคนสุดท้าย
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติ หลายแบรนด์ทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการยิงโฆษณา การทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย หรือการจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ แต่มีจุดหนึ่งที่หลายคนมักมองข้าม—จุดที่สำคัญที่สุดเมื่อสินค้าเดินทางไปถึงมือลูกค้า นั่นคือ "วินาทีแห่งการแกะกล่อง" (The Unboxing Experience) ทำไมกล่องพัสดุธรรมดาๆ ถึงถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "เซลส์แมนคนสุดท้าย" และเราจะเปลี่ยนกล่องกระดาษสีน้ำตาลให้กลายเป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังได้อย่างไร? มาหาคำตอบกันครับ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
13 ธ.ค. 2025
FOMO Marketing: ศิลปะการกระตุ้นความ "เสียดาย" ให้กลายเป็น "ยอดขาย" แบบเนียน ๆ (ไม่ยัดเยียด)
เคยไหม? ที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะซื้อของชิ้นนั้น แต่พอเห็นป้าย "เหลือ 2 ชิ้นสุดท้าย" หรือเพื่อนในโซเชียลเริ่มแชร์กันเต็มหน้าฟีด จู่ๆ มือของคุณก็กดสั่งซื้อไปโดยอัตโนมัติ... นี่คือกำลังของ FOMO (Fear of Missing Out) หรือ "ความกลัวที่จะตกขบวน" ในโลกการตลาด FOMO คืออาวุธที่ทรงพลังมาก แต่ถ้าใช้ไม่เป็น มันจะกลายเป็น "ดาบสองคม" ที่ทำให้แบรนด์ดูน่ารำคาญและยัดเยียดทันที วันนี้เราจะมาเจาะลึกเทคนิคการใช้ FOMO Marketing ให้ดู Classy ดูแพง และกระตุ้นลูกค้าได้แบบแยบยลครับ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
10 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ