แชร์

Counter-Positioning การสร้างจุดยืนที่แตกต่าง เพื่อเอาชนะคู่แข่ง

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 8 ม.ค. 2025
550 ผู้เข้าชม

Counter-Positioning การสร้างจุดยืนที่แตกต่าง เพื่อเอาชนะคู่แข่ง

 

Counter-Positioning หรือ การวางตำแหน่งตรงข้าม เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด ซึ่งแบรนด์จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน โดยเน้นย้ำคุณสมบัติหรือประโยชน์ที่คู่แข่งไม่มีหรือไม่ได้เน้นมากนัก

 

ทำไมต้อง Counter-Positioning?

  • โดดเด่นจากคู่แข่ง: ในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง การสร้างความแตกต่างคือกุญแจสำคัญในการดึงดูดลูกค้า
  • ตอบสนองความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง: บางครั้งผู้บริโภคกำลังมองหาสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไป
  • สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่: การสร้างจุดยืนที่แตกต่างอาจดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่คู่แข่งยังเข้าถึงไม่ได้

 

ตัวอย่าง Counter-Positioning

  • สายการบิน: สายการบินบางแห่งเน้นความหรูหราและบริการที่เหนือกว่า (เช่น First Class) ในขณะที่สายการบินอื่นๆ อาจเน้นราคาประหยัดและความสะดวกสบาย 
  • รถยนต์: รถยนต์บางรุ่นเน้นสมรรถนะและความเร็ว ในขณะที่บางรุ่นเน้นความปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน 
  • เครื่องดื่ม: เครื่องดื่มบางชนิดเน้นรสชาติหวานและซ่า ในขณะที่บางชนิดเน้นรสชาติขมและสุขภาพ 

 

วิธีการทำ Counter-Positioning

  1. วิเคราะห์คู่แข่ง: ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน และกลยุทธ์ของคู่แข่งอย่างละเอียด
  2. ค้นหาช่องว่างในตลาด: หาสิ่งที่คู่แข่งยังไม่ได้ทำหรือทำได้ไม่ดี
  3. สร้างคุณค่าที่แตกต่าง: กำหนดคุณค่าที่แบรนด์จะมอบให้กับลูกค้า ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
  4. สื่อสารอย่างชัดเจน: สื่อสารจุดยืนที่แตกต่างนี้ให้ลูกค้าเข้าใจอย่างง่ายดาย

 

ข้อดีของ Counter-Positioning

  • สร้างความจดจำ: ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น
  • สร้างความภักดีต่อแบรนด์: ลูกค้าจะรู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจความต้องการของพวกเขาได้ดี
  • ลดความเสี่ยงจากการแข่งขัน: การอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจะทำให้แบรนด์ไม่ต้องแข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งรายใหญ่

 

ข้อควรระวัง

  • ต้องมีความแตกต่างที่ชัดเจน: หากความแตกต่างไม่ชัดเจน ลูกค้าอาจจะสับสน
  • ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์: จุดยืนที่แตกต่างต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • ต้องสื่อสารอย่างต่อเนื่อง: การสื่อสารจุดยืนที่แตกต่างต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าจดจำ

 

สรุป

Counter-Positioning เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างความแตกต่างและสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การเข้าใจและนำกลยุทธ์นี้ไปใช้ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จได้

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำ Content โลจิสติกส์ให้เข้าใจง่าย
กลยุทธ์สร้างคอนเทนต์โลจิสติกส์ให้อ่านง่าย เห็นภาพจริง เพิ่มความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับบริษัทขนส่งและผู้ทำการตลาดสายโลจิสติกส์
ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
9 ธ.ค. 2025
Customer Retention 101: ทำไม "บริการส่งที่ดี" ถึงสำคัญกว่า "ยิงแอด" ในการดึงลูกค้าให้ซื้อซ้ำ
หยุดถมเงินค่าแอด ถ้าหลังบ้านยัง "รั่ว" คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมยิงแอดไปเท่าไหร่ ยอดขายก็ไม่โตแบบก้าวกระโดดสักที? หรือทำไมลูกค้าซื้อครั้งเดียวแล้วหายเงียบ ไม่กลับมาซื้อซ้ำ? ในโลกธุรกิจออนไลน์ปี 2025 ที่ค่าโฆษณา (Ads Cost) แพงหูฉี่ การมัวแต่หาลูกค้าใหม่ (Acquisition) อาจไม่ใช่คำตอบที่คุ้มค่าที่สุดอีกต่อไป กุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและกำไรพุ่งคือ "การรักษาลูกค้าเก่า (Customer Retention)" และเชื่อหรือไม่ว่า เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ไม่ใช่คูปองส่วนลด แต่คือ "ประสบการณ์การจัดส่ง (Delivery Experience)" นั่นเอง วันนี้ BS Group จะพาไปดูว่าทำไมการส่งของที่ดี ถึงมีค่ามากกว่าการยิงแอด
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
9 ธ.ค. 2025
The Decoy Effect (ปรากฏการณ์ตัวล่อ): จิตวิทยาการตั้งราคาที่ทำให้ลูกค้า "ยอมจ่ายแพง" โดยไม่รู้ตัว
เคยไหม? ที่คุณเดินเข้าไปในร้านกาแฟตั้งใจจะสั่งแก้วเล็ก แต่จบลงที่การเดินออกมาพร้อมแก้วใหญ่สุด หรือสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันรายปีทั้งที่คิดว่าจะลองแค่รายเดือน คุณไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด และคุณไม่ได้ “หน้าใหญ่” แต่อย่างใด แต่คุณกำลังตกอยู่ในมนตร์สะกดทางจิตวิทยาที่เรียกว่า "The Decoy Effect" หรือ ปรากฏการณ์ตัวล่อ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
8 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ