แชร์

ทฤษฎี Ansoff Matrix แผนที่นำทางสู่การเติบโตของธุรกิจ

อัพเดทล่าสุด: 7 ม.ค. 2025
541 ผู้เข้าชม

Ansoff Matrix หรือที่เรียกว่า Product/Market Expansion Grid เป็นเครื่องมือที่นักธุรกิจและนักการตลาดใช้ในการวางแผนและวิเคราะห์กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ โดยพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ผลิตภัณฑ์ (Product) และ ตลาด (Market) เมื่อนำปัจจัยทั้งสองมาผสมผสานกัน จะได้กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ 4 แนวทางหลัก

ทำความรู้จักกับ Ansoff Matrix 

Ansoff Matrix แบ่งกลยุทธ์การเติบโตออกเป็น 4 ช่อง ดังนี้

1. Market Penetration (เจาะตลาดด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์เดิมในตลาดเดิม อาจทำได้โดยการลดราคา เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย หรือทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น

  • ตัวอย่าง: โคคา-โคลาเพิ่มยอดขายโดยการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือเปิดตัวขนาดบรรจุภัณฑ์ใหม่

2. Product Development (พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดเดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดเดิม อาจเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้อง

  • ตัวอย่าง: Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม

3. Market Development (บุกตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการนำผลิตภัณฑ์เดิมไปขายในตลาดใหม่ อาจเป็นการขยายเข้าสู่ภูมิภาคใหม่ หรือกลุ่มลูกค้าใหม่

  • ตัวอย่าง: Starbucks ขยายสาขาไปยังประเทศใหม่ๆ

4. Diversification (หลายด้านด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดใหม่): เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม

  • ตัวอย่าง: Virgin Group เริ่มต้นจากธุรกิจดนตรี ก่อนขยายไปสู่ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ

เหตุใด Ansoff Matrix จึงสำคัญ?

  • ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกลยุทธ์การเติบโต: ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแต่ละกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน
  • ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ: ช่วยให้องค์กรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับทรัพยากรและความสามารถขององค์กรมากที่สุด
  • สร้างโอกาสในการเติบโต: ช่วยให้องค์กรค้นพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจมองข้ามไป
  • เป็นเครื่องมือในการวางแผนเชิงกลยุทธ์: ช่วยให้องค์กรวางแผนการดำเนินงานในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำ Ansoff Matrix ไปใช้

ในการนำ Ansoff Matrix ไปใช้ประโยชน์ ควรทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น

  • ความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์ของเราแข็งแกร่งเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดใหม่ได้หรือไม่
  • ความต้องการของตลาด: ตลาดใหม่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ของเราหรือไม่
  • ทรัพยากรที่มีอยู่: องค์กรมีทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินกลยุทธ์นั้นๆ หรือไม่
  • ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกกลยุทธ์นั้นๆ

สรุป

Ansoff Matrix เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวางแผนการเติบโตของธุรกิจ ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ

 

ที่มา: Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาที่เจอบ่อยในการส่งของไปต่างประเทศ (พร้อมวิธีแก้)
การส่งของไปต่างประเทศอาจดูเหมือนเรื่องง่ายแค่แพ็คของแล้วไปส่ง แต่ในความเป็นจริงมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่อาจทำให้เกิดความล่าช้า เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือแม้กระทั่งของไม่ถึงปลายทาง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
24 พ.ค. 2025
Warehouse Automation ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งออกอย่างไร?
ในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ ความรวดเร็วและความแม่นยำในการดำเนินการโลจิสติกส์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง Warehouse Automation หรือ "ระบบอัตโนมัติในคลังสินค้า" จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
24 พ.ค. 2025
เช้า 5 นาทีที่เปลี่ยนคุณทั้งวัน: การ Manifest ก่อนเริ่มงาน
ทุกเช้า...คุณตื่นมาแล้วทำอะไรเป็นอย่างแรก? หลายคนเปิดมือถือ เช็กโซเชียล หรือไถดูอีเมลจากเจ้านาย ยังไม่ทันล้างหน้าใจก็เริ่มว้าวุ่นแล้ว แต่ถ้าบอกว่า แค่ 5 นาทีในตอนเช้า สามารถเปลี่ยนวันทั้งวันของคุณให้สงบ ชัดเจน และเต็มไปด้วยพลังได้ล่ะ? คำตอบคือ: Manifesting
ร่วมมือ.jpg Contact Center
24 พ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ