Credit Term คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 16 พ.ย. 2024
35 ผู้เข้าชม
Credit Term หรือ เงื่อนไขเครดิต หมายถึง ระยะเวลาที่กำหนดให้ลูกค้าสามารถชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการได้หลังจากได้รับสินค้าหรือบริการนั้น โดยทั่วไปจะระบุเป็นจำนวนวัน เช่น 30 วัน 60 วัน หรือ 90 วัน นับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้
ทำไม Credit Term ถึงสำคัญ?
- กระตุ้นยอดขาย: การให้เครดิตกับลูกค้าสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าใหม่ หรือขายสินค้าที่มีมูลค่าสูง
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า: การให้เครดิตแสดงถึงความเชื่อมั่นในตัวลูกค้า และสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวได้
- ปรับตัวให้เข้ากับตลาด: เงื่อนไขเครดิตสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพตลาดและลักษณะของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ประเภทของ Credit Term ที่พบบ่อย
- สุทธิ 30 วัน (Net 30): ลูกค้าต้องชำระเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้
- สุทธิ 60 วัน (Net 60): ลูกค้าต้องชำระเงินภายใน 60 วัน นับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้
- สุทธิ 90 วัน (Net 90): ลูกค้าต้องชำระเงินภายใน 90 วัน นับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้
- 2/10, Net 30: หมายความว่า ลูกค้าจะได้รับส่วนลด 2% หากชำระเงินภายใน 10 วัน มิฉะนั้นต้องชำระเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Credit Term ที่แตกต่างกัน
- ธุรกิจค้าส่ง: มักให้ Credit Term ที่ค่อนข้างยาว เช่น 60 วัน หรือ 90 วัน เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการเวลาในการหมุนเวียนสินค้าและชำระเงิน
- ธุรกิจค้าปลีก: อาจให้ Credit Term สั้นกว่า เช่น 30 วัน หรือไม่มีการให้เครดิตเลย เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการชำระเงินทันที
- ธุรกิจอุตสาหกรรม: อาจมีการกำหนด Credit Term ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดของลูกค้าและความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เช่น ลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากอาจได้รับ Credit Term ที่ยาวนานกว่า
- ธุรกิจบริการ: เช่น บริษัทให้คำปรึกษา อาจเรียกเก็บเงินค่าบริการล่วงหน้า หรือให้เครดิตสั้น ๆ เนื่องจากบริการส่วนใหญ่เป็นบริการที่จับต้องไม่ได้
ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการกำหนด Credit Term
- ขนาดและความแข็งแกร่งของธุรกิจ: ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง อาจสามารถให้เครดิตได้นานขึ้น
- ประวัติการชำระเงินของลูกค้า: ลูกค้าที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี อาจได้รับเงื่อนไขเครดิตที่ผ่อนปรนกว่า
- ลักษณะของอุตสาหกรรม: อุตสาหกรรมบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง อาจมีการให้เครดิตที่นานกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ
- สภาพคล่องทางการเงินของธุรกิจ: ธุรกิจต้องมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอที่จะรองรับหนี้สินที่เกิดจากการให้เครดิต
ข้อควรระวังในการให้เครดิต
- ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้: การให้เครดิตอาจทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเงินคืน
- ต้นทุนทางการเงิน: การให้เครดิตอาจทำให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสในการนำเงินไปลงทุนในกิจการอื่น
- การบริหารจัดการหนี้สิน: ธุรกิจต้องมีระบบการบริหารจัดการหนี้สินที่ดี เพื่อติดตามและทวงถามหนี้สินจากลูกค้าที่ค้างชำระ
สรุป
Credit Term เป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถช่วยให้ธุรกิจขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ธุรกิจควรเลือกใช้ Credit Term ที่เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจและสภาพตลาด เพื่อให้สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BY: MANthi
ที่มา: Gemini
Tags :