รวม ไอเดีย การเลือกทำเลเปิดหน้าร้าน แบรนด์ดัง ๆ เขาเลือกกันอย่างไรบ้าง
ไอเดียการเลือกทำเลเปิดหน้าร้านสำหรับแบรนด์ดัง ๆ นั้นมักพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง โดยรวมแล้ว แบรนด์จะพิจารณาสถานที่ตั้งในเชิงกลยุทธ์เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือ 7 ไอเดียในการเลือกทำเลเปิดหน้าร้านที่แบรนด์ดัง ๆ มักใช้:
1. สถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น ย่านการค้า สถานีรถไฟใต้ดิน หรือจุดขนส่งมวลชนที่มีผู้คนผ่านไปมามากมาย
2. ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทำให้ผู้คนเห็นแบรนด์ได้ง่าย เป็นจุดที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี
3. พื้นที่ที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ เช่น แบรนด์หรูจะเลือกอยู่ในย่านธุรกิจระดับสูงหรือเขตเมืองที่มีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม
4. ทำเลที่ใกล้กับคู่แข่งที่เสริมกันได้ เช่น แบรนด์กาแฟอาจอยู่ใกล้ร้านหนังสือ
5. ทำเลที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวหรือสถานที่ทางวัฒนธรรม
6. สถานที่ที่เอื้อต่อการสร้างประสบการณ์ บางแบรนด์จะเลือกทำเลที่สามารถปรับแต่งเพื่อการออกแบบร้านที่ดึงดูดใจ
7. ที่ตั้งที่สะดวกสำหรับการเดินทางและจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการเข้าถึงและการใช้เวลาในร้าน
ตัวอย่างแบรนด์ดัง ๆ
- McDonald's
- ร้านจะต้องอยู่บนจุดที่ลูกค้าสามารถมองเห็นร้านได้จากถนนทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณแยกสำคัญ ๆ ที่มี Traffic เยอะ ๆ
- สำหรับสาขา Stand Alone ที่เป็น Drive Thru จะต้องเป็นจุดที่การจราจรปลอดภัย ไม่เสี่ยงอุบัติเหตุ และต้องมีพื้นที่ที่พอให้จอดรถ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลี้ยวเข้าร้านง่ายขึ้น
- ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของร้านให้เข้ากับขนาดหน้าร้านเสมอ แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุด คือต้องมีพื้นที่เตรียมอาหาร, พื้นที่จัดเก็บ, เคาน์เตอร์ ที่ใหญ่พอให้บริการลูกค้าแล้วไม่กระทบคุณภาพ - Starbucks
- ต้องเป็นทำเลที่มองเห็นได้ง่ายจากริมถนน เช่น ที่ชั้นล่างของห้างบริเวณติดถนน เพราะต้องการใช้หน้าร้านเป็นป้ายโฆษณาให้แบรนด์ไปในตัว
- ชอบทำเลที่เลือกเวลาเปิด-ปิดได้ตามใจชอบ เพราะบางครั้งลูกค้าของ Starbucks ก็ต้องการซื้อเครื่องดื่มก่อนเวลาทำการของศูนย์การค้า
- ใช้ Data มาวิเคราะห์ว่า พื้นที่ตรงไหนที่มี Traffic หนาแน่น และป้องกันการแย่งลูกค้ากันเอง ของแต่ละสาขาให้ได้มากที่สุด - Haidilao
- ชอบตั้งอยู่บริเวณ CBD หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ เพราะอยู่ใกล้คนมีกำลังซื้อ และคนพลุกพล่าน
- ต้องเป็นทำเลที่ลูกค้าสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งขนส่งมวลชน และรถยนต์ส่วนตัว
- ต้องเป็นพื้นที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในตัว เช่น ห้องน้ำ, ร้านค้าปลีกอื่น ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามีกิจกรรมอื่นให้ทำระหว่างรอคิว
- ไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่โดดเด่น แต่พื้นที่ต้องกว้างพอให้สามารถรักษาระดับการบริการได้ - Apple (Apple Store)
- Apple เลือกทำเลจาก เมือง ไม่ใช่ ประเทศ และต้องเป็นเมืองใหญ่ที่มีแนวโน้มจะใหญ่ติด Top 100 ของโลก ไปอย่างต่ำอีก 5 ปี
- ร้านค้าปลีกในบริเวณใกล้เคียง จะต้องดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อได้ (เช่น ร้านแบรนด์หรู)
- ต้องมีความสมมาตรทางภูมิศาสตร์ เช่น เลือกทำเลที่มีโครงสร้างของเมืองบังหน้าร้านให้น้อยที่สุด
ตัวอย่างเกณฑ์เลือกทำเลของแบรนด์ไทย - Karun Thai Tea
- ชอบเลือกย่านที่อยู่ใกล้คนมีกำลังซื้อ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ในเมือง แต่ยังรวมถึงย่านชานเมืองที่ใกล้ย่านครอบครัวอยู่อาศัย มีกำลังซื้อสูง
ตัวอย่างทำเล เช่น พร้อมพงษ์, ราชประสงค์, บางนา, ลาดพร้าว
- ตั้งร้านใกล้กับร้านสินค้าแบรนด์เนม สินค้าพรีเมียม หรือแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายคล้าย ๆ กัน
- ไม่ตั้งร้านใกล้กับทางตัน โดยหน้าร้านต้องสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ - สุกี้ตี๋น้อย
- เลือกพื้นที่ใหญ่ มีที่จอดรถเยอะ พื้นที่ต้องติดถนนใหญ่หรือติดหัวมุมถนน ไม่อยู่ในซอยแคบ
- ถ้าจะเปิดในห้างสรรพสินค้าหรือคอมมิวนิตีมอลล์ ร้านจะต้องใหญ่ โดดเด่น และมีพื้นที่ให้มองเห็นได้จากนอกห้าง
- เลือกทำเลที่เป็นหมู่บ้าน หรือใกล้กลุ่มลูกค้านักศึกษามหาวิทยาลัย และใกล้ออฟฟิศ เดินทางมาสะดวก
รถไม่ติดเยอะ
- มองหาว่า McDonald's หรือ KFC หรือแบรนด์ดังอื่น ๆ ตั้งร้านตรงไหน แล้วค่อยไปพิจารณาตั้งร้านตรงนั้น
เพราะแบรนด์เหล่านี้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้ว - ร้านสะดวกซื้อ CJ
- ชอบตั้งอยู่ใกล้ชุมชนหรือตลาดนัดขนาดกลางหรือค่อนข้างใหญ่ เพราะเน้นขายของราคาย่อมเยา
- ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ขนาด 200 ตารางวาขึ้นไป เพราะลูกค้าจะได้มีที่จอดรถ
- ถ้าเป็นอาคารพาณิชย์ ต้องมีพื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป มีหน้ากว้างไม่ต่ำกว่า 20 เมตร หรือประมาณ 5 คูหาขึ้นไป
BY : พี่ปี(ทีม5)
ที่มา : FB MarketThink และ CHAT GPT