Passive income กับ Active income เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
อัพเดทล่าสุด: 24 ต.ค. 2024
684 ผู้เข้าชม

รายได้แบบ Passive Income กับ Active Income: แตกต่างกันอย่างไร?
รายได้แบบ Passive Income (รายได้แบบไม่ต้องลงแรง) และ Active Income (รายได้แบบต้องลงแรง) เป็นสองรูปแบบของรายได้ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงครับ
รายได้แบบ Active Income (รายได้แบบต้องลงแรง)
ความหมาย: คือรายได้ที่ได้มาจากการทำงานโดยตรง เช่น การทำงานประจำ, การทำธุรกิจส่วนตัวที่ต้องลงแรงในการทำงานประจำวัน, หรือการให้บริการต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม
ลักษณะ
- ต้องใช้เวลาและแรงกายแรงใจในการทำงาน
- รายได้จะหยุดเมื่อหยุดทำงาน
- ตัวอย่าง: เงินเดือนประจำ, ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้า, ค่าจ้างรายวัน
ข้อดี
- ได้รับรายได้อย่างสม่ำเสมอ
- พัฒนาตนเองได้จากการทำงาน
- มีความมั่นคงในรายได้ (ในบางกรณี)
ข้อเสีย
- ต้องใช้เวลาและแรงกายแรงใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
- รายได้จำกัดอยู่กับเวลาที่ทำงาน
- หากหยุดทำงาน รายได้ก็จะหายไป

รายได้แบบ Passive Income (รายได้แบบไม่ต้องลงแรง)
ความหมาย: คือรายได้ที่ได้มาจากทรัพย์สินหรือระบบที่สร้างขึ้นมา โดยไม่ต้องลงแรงทำงานประจำวัน
ลักษณะ
- ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงานประจำวัน
- รายได้ยังคงมีเข้ามาแม้จะไม่ได้ทำงาน
- ตัวอย่าง: ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์, ดอกเบี้ยเงินฝาก, รายได้จากการลงทุนในหุ้น, รายได้จากการขายสินค้าออนไลน์แบบ dropshipping
ข้อดี
- สร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
- มีอิสระทางเวลา
- ไม่จำเป็นต้องแลกกับเวลาในการทำงาน
ข้อเสีย
- ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้น
- ต้องใช้เวลาในการสร้างระบบ
- มีความเสี่ยงในการลงทุน
การสร้างรายได้แบบ Passive Income เป็นเป้าหมายของหลายๆ คน เนื่องจากช่วยให้อิสระทางเวลาและสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การสร้างรายได้แบบ Passive Income ต้องใช้ความรู้และการวางแผนที่ดี
คำแนะนำ
- ศึกษาหาความรู้: ก่อนเริ่มต้นลงทุนในรายได้แบบ Passive Income ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนประเภทต่างๆ ให้ละเอียด
- วางแผนการเงิน: กำหนดงบประมาณและเป้าหมายในการสร้างรายได้
- เริ่มต้นจากน้อยๆ: เริ่มต้นลงทุนในจำนวนเงินที่สามารถรับความเสี่ยงได้สร้างความหลากหลาย: กระจายการลงทุนไปในหลายๆ ช่องทางเพื่อลดความเสี่ยง
BY: MANthi
ที่มา: Gemini
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในโลกธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และ Fulfillment ที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและสถานการณ์เฉพาะหน้าที่หลากหลาย "ความรู้" จากตำราเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้ แต่ "การฝึกประสบการณ์" หรือการลงมือทำจริง คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนทฤษฎีให้กลายเป็นทักษะที่ใช้ได้จริง และสร้างความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในทุกมิติของการทำงาน
20 ต.ค. 2025
ในโลกการตลาดยุคดิจิทัล เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับประโยคอมตะที่ว่า "Content is King" (คอนเทนต์คือราชา) ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ คอนเทนต์คุณภาพสูงคือสิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาหาแบรนด์ของคุณ สร้างความน่าเชื่อถือ และให้คุณค่าแก่ผู้ชม
แต่ในสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือดในปัจจุบัน การมีเพียง "ราชา" อาจไม่เพียงพออีกต่อไป... เพราะสิ่งที่ทำให้แบรนด์ของคุณอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การมีผู้ติดตาม แต่คือการมี "อาณาจักร" ที่แข็งแกร่ง และอาณาจักรนั้นก็คือ "Community" (ชุมชน) ของคุณนั่นเอง
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าทำไมยุคนี้ "Content is King" จึงต้องตามมาด้วย "Community is Kingdom" และทำไม Community Marketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างปราการอันแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณ
17 ต.ค. 2025
ในสมรภูมิธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่การแข่งขันนับวันยิ่งทวีความรุนแรง การบริหารจัดการต้นทุนและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าคือหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ หนึ่งในจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ผู้ประกอบการหลายคนอาจมองข้ามไป คือ “พาร์ทเนอร์ขนส่ง” ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดส่งสินค้า แต่คือหุ้นส่วนทางกลยุทธ์ที่สามารถชี้ชะตาธุรกิจของคุณได้เลยทีเดียว
29 ก.ย. 2025


Contact Center
