แชร์

Sales Gatekeepers ตำแหน่งที่เซลส์ทุกคนจำเป็นต้องรู้!

อัพเดทล่าสุด: 21 ต.ค. 2024
756 ผู้เข้าชม

Sales Gatekeepers ทำงานยังไง?

          ปกติ Sales Gatekeepers หรือ ผู้คัดกรอง จะต้องทำงานร่วมกันกับตำแหน่งอื่นๆในองค์กร ที่จะคอยช่วยกันวิเคราะห์งานเสนอขาย หลังจากนั้นจะส่งต่อไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆที่สูงกว่า ดังนี้

1.ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ 

          เป็นบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อขั้นสุดท้าย สิ่งสำคัญ คือ ผู้คัดกรองต้องเข้าใจบทบาทและแนวทางในบริษัท กระบวนการตัดสินใจและประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในองค์กรที่อาจเป็นผลกระทบกับผู้บริหารด้วย

2.ผู้มีอิทธิพล 

          ตำแหน่งนี้อาจไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจซื้อ แต่สามารถโน้มน้าว ให้ความคิดเห็น และคำแนะนำ โดยตำแหน่งนี้มักจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและลูกค้าในด้านของการตลาด หรือ Sales Lead ซึ่งก็คือ บุคคลหรือธุรกิจที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากได้ในที่สุด

3.บล็อกเกอร์ 

          ตำแหน่งนี้เรียกได้ว่า เป็นตำแหน่งป้องกันที่ไม่ให้มีการขายเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือ บล็อกเกอร์จำเป็นต้องเข้าใจแรงจูงใจของการซื้อ-ขาย และจัดการกับข้อกังวลใดๆที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทในอนาคต

Sales Gatekeepers กับ การทำธุรกิจแบบ B2B

           ในการทำธุรกิจแบบรายใหญ่ ไม่มีเซลส์คนไหนไม่รู้จัก B2B หรือ Business-to-Business หมายถึง การทำธุรกิจโดยขายสินค้าหรือบริการ ให้กับลูกค้าที่เป็นลูกค้าองค์กร หรือ บริษัทต่างๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้ารายย่อย

           ซึ่งปัจจุบันการทำธุรกิจแบบ B2B ไปพร้อมๆกับการมีโปรแกรมตัวช่วยบริหารด้านการขายด้วยระบบอัจฉริยะ จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปได้แบบก้าวกระโดดอย่าง The Revenue Acceleration Platform ของ Wisible ซึ่งเป็นระบบบริหารงานขายที่มีประสิทธิภาพสูงจาก CRM

          สามารถคาดการณ์ไปจนถึงติดตามยอดขายได้แบบ Real time รู้ชัดทุกการเคลื่อนไหวของงานขาย ช่วยเพิ่มโอกาสปิดดีลได้มากขึ้นกว่า 45% ซึ่งผลลัพธ์จากการใช้ระบบนี้ จะช่วยสร้างยอดขายให้เร็วขึ้นแบบติดปีก สามารถทำให้การเพิ่มยอดขายทะลุเป้าได้ในระยะเวลาที่สั้นลง และการปิดดีลที่เร็วขึ้นนี้ ก็ทำให้คุณมีเวลาในการโฟกัสกับงานในจุดอื่นๆ ที่ต้องแก้ไขในบริษัทแทน

ปิดการขายง่าย ๆ ด้วยการชนะใจ Sales Gatekeepers

1.ปฏิบัติต่อ Sales gatekeeper เหมือนเป็นพนักงานที่สามารถช่วยคุณได้ ไม่ใช่บุคคลที่คอยกีดขวาง

           คุณต้องสร้างความประทับใจและน่าจดจำที่ดีต่อผู้คัดกรองให้ได้ ซึ่งนี่จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าพนักงานขายคนอื่นๆ หมั่นติดต่อทุกวันอย่างสม่ำเสมอจนสร้างความเชื่อใจ ปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเคารพและเป็นมิตร แสดงถึงความซื่อสัตย์ จริงใจและมีน้ำใจ ในทุกครั้งที่มีการเข้าหา

2.การมีส่วนช่วยให้คำแนะนำในธุรกิจ และ การเอ่ยถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงที่คุณรู้จัก

          โดยวิธีการให้คำแนะนำในส่วนธุรกิจ มักจะทำให้ผู้ฟังสนใจในไอเดียของคุณเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ คุณอาจพูดประมาณว่า ผมได้อ่าน/ฟัง/ดูงานล่าสุดของเรื่องนี้ ผมมีไอเดียนะ ผมขอคุยเรื่องนี้ต่อตอนนี้ได้ไหม หรือการเอ่ยถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้านธุรกิจนั้นๆ ที่คุณรู้จักก็สามารถช่วยได้ดีทีเดียว โดยให้บอกชื่อคนที่พวกเขาน่าจะรู้จัก เช่นว่าคุณรู้จักคนนี้ และเคยร่วมงานกัน นี่ทำให้คุณมีเครดิตมาก และยิ่งทำให้เขาอยากร่วมงานด้วย

3.ความสุภาพต้องมีให้มาก และการแสดงความมั่นใจจำเป็นอย่างยิ่ง

           คุณอาจรู้สึกโมโห หรือ หงุดหงิดเมื่อต้องเจรจากับ Sales Gatekeeper เพราะพวกเขาจะคอยดักทางคุณเสมอ แต่ให้แน่ใจว่าการใช้คำพูดของคุณฟังดูสุภาพและมั่นใจตัวเองด้วย มันจะกลายเป็นเรื่องที่แย่มากหากคุณเผลอพูดไม่ดีไปนิดเดียว ให้จำไว้ว่าพวกเขาเองก็ทำหน้าที่ตัวเองเช่นกัน

4.การเรียกชื่อ ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ด้วยชื่อเล่น หรือ ชื่อจริงให้ดูเหมือนเรารู้จักเขา

          คุณอ่านไม่ผิดหรอก.. เชื่อเถอะ กว่า 90% ของมนุษย์ เมื่อเราเรียกใครด้วยชื่อเล่นผู้ที่ได้ฟังมักจะให้คุณรู้สึกว่าเรารู้จักคนๆนั้นเป็นอย่างดี การทำเช่นนี้มันทำให้คุณเข้าถึงผู้ที่มีส่วนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

5.อย่าโกหก

          การสร้างความเชื่อใจในการเจรจานั้นสำคัญอย่างมาก และหากคุณโกหกไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ นั่นอาจเป็นการสูญเสียโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์อีกครั้งกับผู้คัดกรองไปเลย

6.รู้จักผู้คัดกรองก่อนที่จะนัดการเจรจา

          แน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาเสมอเมื่อ รู้เขารู้เรา ยิ่งรู้จักผู้คัดกรองมากเท่าไหร่ คุณจะรู้ว่าอะไรควรหยิบมาพูด หรือ อะไรที่ควรเงียบไว้ก่อน

7.อย่าเร่งเร้า อย่ากดดัน

          คุณอาจใช้วิธีเข้าหาผู้คัดกรองเช่นเดียวกับระบบลูกค้าสัมพันธ์ เพราะผู้คัดกรองก็เป็นลูกค้าคุณเช่นกัน อย่าใช้วิธีเร่งเร้า หรือกดดันผู้คัดกรองเด็ดขาด นั่นเหมือนคุณไม่ใส่ใจผู้คัดกรองและแค่ทำให้มันจบๆไปนั่นเอง

 


BY : ICE

ที่มา : https://www.wisible.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
เมื่อทีมขายและการตลาดไม่ใช่ "ไม้เบื่อไม้เมา" แต่ต้องเป็น "เนื้อเดียวกัน" เพื่อเป้าหมายรายได้
เลิกเป็นไม้เบื่อไม้เมา! เมื่อทีม Sales & Marketing ผนึกกำลังเป็น "เนื้อเดียวกัน" เพื่อเป้าหมายรายได้
ร่วมมือ.jpg Contact Center
24 ธ.ค. 2025
"ส่องเทรนด์โลจิสติกส์ปี 2026: Green Logistics และรถ EV จะมาเปลี่ยนโลกขนส่งยังไง?"
โลกเปลี่ยน ธุรกิจต้องปรับ! เจาะลึกเทรนด์ Green Logistics ปี 2026 ทำไมรถบรรทุก EV และการลดคาร์บอนถึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ SME และโรงงานต้องรู้ เตรียมพร้อมก่อนใครกับ BS Express
ผึ้ง เด็กฝึกงาน
24 ธ.ค. 2025
ธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise): ส่งวัตถุดิบให้สาขาทั่วประเทศยังไงให้มาตรฐานเดียวกันเป๊ะ?
สาขาเชียงใหม่ "ปัง" แต่สาขาภูเก็ต "พัง"...เพราะอะไร? หัวใจของธุรกิจแฟรนไชส์ ไม่ใช่แค่การมีป้ายชื่อร้านเหมือนกัน แต่คือ "มาตรฐาน" (Standardization) ลูกค้าคาดหวังว่า ไม่ว่าจะเดินเข้าสาขาไหน รสชาติกาแฟต้องเหมือนเดิม ความกรอบของไก่ทอดต้องเท่าเดิม และบรรจุภัณฑ์ต้องดูดีไม่มีรอยบุบ แต่ปัญหาโลกแตกที่เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเจอคือ "การกระจายสินค้า" (Distribution) ส่งของไปไม่ทัน สาขาของขาดต้องไปซื้อวัตถุดิบตลาดนัดมาแก้ขัด (รสชาติเพี้ยนทันที), ส่งแล้วของแตกเสียหายระหว่างทาง, หรือค่าส่งแพงจนสาขาบ่นอุบ... ปัญหาเหล่านี้คือ "ระเบิดเวลา" ที่ทำลายชื่อเสียงแบรนด์ที่คุณสร้างมากับมือ วันนี้ BS Express จะพาคุณไปดูเบื้องหลังการจัดการระบบขนส่ง (Logistics) ที่แฟรนไชส์เจ้าดังใช้ เพื่อคุมมาตรฐานให้ "เป๊ะ" ทุกสาขาทั่วไทย!
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
24 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ