แชร์

อัตราเงินเฟ้อในปี 2568: แนวโน้ม เศรษฐกิจ และผลกระทบ

Blue_and_Pink_Retro_Illustrative_Great_Square_Pillow.png BS Rut กองรถ
อัพเดทล่าสุด: 29 เม.ย. 2025
42 ผู้เข้าชม
แนวโน้มของเงินเฟ้อในปี 2568
          ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารกลางหลายแห่งคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2568 จะเริ่ม "ชะลอลง" เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนโควิด-19 เล็กน้อย ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มดังกล่าว ได้แก่:

  • ต้นทุนพลังงาน: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีความผันผวนตามภาวะภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและนโยบายพลังงานสะอาด
  • ห่วงโซ่อุปทานโลก: แม้การขนส่งและการผลิตจะเริ่มฟื้นตัว แต่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯ และจีน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ
  • ค่าแรง: ตลาดแรงงานในหลายประเทศตึงตัว ทำให้ค่าแรงเฉลี่ยปรับสูงขึ้น ซึ่งผลักดันต้นทุนการผลิตและราคาสินค้า
สำหรับประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1.5%2.5% ซึ่งอยู่ในระดับ "ใกล้เคียงเป้าหมาย" หลังจากที่เคยสูงเกินเป้าหมายในช่วงวิกฤตพลังงานปี 2566

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและประชาชน
อัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องมีผลกระทบในหลายมิติ ได้แก่:

  • ค่าครองชีพสูงขึ้น: ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร พลังงาน และค่าที่อยู่อาศัย เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • นโยบายการเงินเข้มงวด: ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งกระทบต่อการกู้ยืม ทั้งในภาคธุรกิจและครัวเรือน
  • การลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ: อัตราดอกเบี้ยสูงกดดันการลงทุนใหม่ ๆ และอาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง
ในประเทศไทย ผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากรายได้ที่ปรับตัวช้ากว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลยังคงมีนโยบายช่วยเหลือ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการลดภาระค่าครองชีพต่าง ๆ

มุมมองอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเชื่อว่า หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น วิกฤตการณ์ทางการเมืองใหญ่ หรือสงครามใหม่ ๆ เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะค่อย ๆ ฟื้นตัว และอัตราเงินเฟ้อจะเข้าสู่ระดับ "ปกติใหม่" ที่สูงกว่าก่อนยุคโควิดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

บทความที่เกี่ยวข้อง
ลดต้นทุนการจัดเก็บสินค้าอย่างไร? เทคนิคจากคลังสินค้าชั้นนำ
ในการบริหารจัดการคลังสินค้า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรของธุรกิจคือ “ต้นทุนการจัดเก็บสินค้า” ซึ่งหากจัดการไม่ดี ต้นทุนส่วนนี้อาจกลายเป็นภาระหนักโดยไม่จำเป็น วันนี้เราจะพาคุณมาดูเทคนิคจากคลังสินค้าชั้นนำที่ใช้ได้จริง เพื่อช่วยลดต้นทุนการจัดเก็บสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
30 เม.ย. 2025
ระบบ WMS (Warehouse Management System) คืออะไร และทำไมคุณควรใช้
ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพ "การจัดการคลังสินค้า" กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน โดยเฉพาะกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและโลจิสติกส์ หากคุณยังใช้การจัดการแบบดั้งเดิม เช่น การจดบันทึกลงกระดาษ หรือไฟล์ Excel อาจถึงเวลาที่ต้องพิจารณาใช้ ระบบ WMS (Warehouse Management System) แล้ว
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
30 เม.ย. 2025
5 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าแบบมืออาชีพ
การจัดการคลังสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่มีการจัดจำหน่ายหรือผลิตสินค้า หากคลังสินค้าถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการต่างๆ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลจริง ที่จะช่วยให้การบริหารคลังสินค้าของคุณเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
29 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ