แชร์

ความสำคัญและประเภทของการลงทุน

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(ฝ่ายวางแผน)
อัพเดทล่าสุด: 20 ก.พ. 2025
285 ผู้เข้าชม

ในยุคสมัยที่ค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ การออมเงินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นคนยุคใหม่จึงควรหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากการลงทุนถือเป็นเครื่องมือที่จะช่วยต่อยอดเงินออม และสร้างผลตอบแทนให้งอกเงยได้ ในบทความนี้จะขอพาไปรู้ถึงประโยชน์ของการลงทุน พร้อมกับรู้จัก 5 ประเภทของการลงทุนที่น่าสนใจ และปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นลงทุน เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว

การลงทุนคืออะไร?
การลงทุน คือการซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ และอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือแม้แต่คริปโตเคอร์เรนซี ด้วยความคาดหวังว่าจะสร้างผลตอบแทนในอนาคต ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นอาจมาในรูปแบบของเงินปันผล ดอกเบี้ย หรือมูลค่าของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นก็ได้


ความสำคัญของการลงทุน
อย่างที่ได้กล่าวไปถึงปัญหาเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝากเงินหรือออมเงินเป็นประจำไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต รวมถึงในอนาคตระยะยาว เพราะถึงแม้ว่า การออมเงินจะปลอดภัย และให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ แต่อัตราดอกเบี้ยก็ไม่ได้สูงพอที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินได้ ทำให้การลงทุนมีความสำคัญอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า ทั้งยังสามารถช่วยให้เหล่านักลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น หรือตามที่ได้วางแผนเอาไว้

 
การออมเงิน VS การลงทุน
การออมเงิน หมายถึงการเก็บสะสมเงินไว้สำหรับใช้ในอนาคต ส่วนใหญ่มักจะออมเงินในรูปแบบของการฝากเงินกับธนาคาร ซึ่งมีดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน โดยการเก็บออมเงินนี้จะมีความเสี่ยงต่ำ เงินต้นปลอดภัย และมีสภาพคล่องสูง   

การลงทุน หมายถึงการนำเงินที่เก็บสะสมไว้ไปสร้างผลตอบแทน โดยลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งผลตอบแทนจะน้อยหรือจะมากนั้น ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถยอมรับได้ มีตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำ ไปถึงความเสี่ยงสูง ตัวอย่างการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น การฝากเงินกับธนาคาร แบบฝากเผื่อเรียก และฝากประจำ ไปจนถึงการซื้อสินทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย เงินปันผล หรือมูลค่าของสินทรัพย์ที่สูงขึ้น ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าการออมเงิน แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ตัวอย่างของการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงคือ กองทุนรวม และการซื้อหุ้น เป็นต้น   

ข้อดี-ข้อจำกัด ของการออมและการลงทุนมีอะไรบ้าง?
ตารางเปรียบเทียบข้อดี-ข้อจำกัดของการออมและการลงทุน
การออมเงิน
การลงทุน


ข้อดี
ความเสี่ยงต่ำ
สภาพคล่องสูง สามารถถอนมาเป็นเงินสดได้ไม่ยาก เหมาะไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับทุกคน ทุกวัย
ไม่ต้องใช้ความรู้มาก ไม่ต้องเฝ้าระวังสภาวะตลาด
มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง
บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น
มีทางเลือกการลงทุนหลากหลาย
การลงทุนบางอย่าง สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ เช่น กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

ข้อจำกัด
ผลตอบแทนต่ำ
เงินเฟ้อกัดกินมูลค่าเงิน
ใช้เวลานานกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
 ความเสี่ยงสูง
อาจสูญเสียเงินลงทุนได้
ไม่เหมาะกับทุกคน เพราะต้องมีความรู้ในเรื่องการลงทุน และใช้เวลาในการวางกลยุทธ์การลงทุน ก่อนตัดสินใจ
มีสภาพคล่องต่ำกว่าการออม เปลี่ยนกลับมาเป็นเงินได้ยากกว่า
 

ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มต้นลงทุน
แม้ว่าการลงทุนจะเป็นหนทางสู่ความมั่งคั่งเช่นเดียวกับการออมเงิน แต่มักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ โดยการลงทุนบางประเภทแม้จะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดี แต่ก็มีความเสี่ยงสูง ยิ่งถ้าหากไม่ศึกษารายละเอียดให้ดี หรือขาดกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมก็อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะลงทุนแบบไหนดี ควรศึกษารายละเอียดและพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เช่น

เป้าหมายทางการเงินของคุณ ควรพิจารณาว่าต้องการเงินลงทุนเพื่ออะไร ระยะเวลาที่ต้องการลงทุน รวมถึงระดับความเสี่ยงที่รับได้
งบประมาณในการลงทุนของคุณ ควรพิจารณาว่ามีเงินทุนเท่าไหร่ และสามารถลงทุนได้เท่าไหร่
ความรู้ และความเชี่ยวชาญในการลงทุน ควรพิจารณาว่าเรามีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนมากน้อยแค่ไหน และมีอะไรที่ควรศึกษาเพิ่มเติมบ้าง
กลยุทธ์ในการลงทุน ก่อนที่จะเลือกลงทุนอะไรก็ตาม ควรพิจารณาว่าเหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนที่วางไว้หรือไม่
ความเสี่ยงของการลงทุน ต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงของการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ว่าอยู่ในระดับที่รับได้หรือไม่ และควรกระจายความเสี่ยงโดยหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียว
 

5 ประเภทของการลงทุนยอดนิยม
การลงทุนแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่นักลงทุนมือใหม่อยากรู้ ซึ่งการลงทุนนั้นมีหลายทางเลือกมาก ๆ แต่มีอยู่ 5 ประเภทของการลงทุนที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือ

 

1. กองทุนรวม
กองทุนรวมคือกองทุนที่นำเงินจากนักลงทุนไปบริหารจัดการ และเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแล ซึ่งกองทุนรวมจะมีอยู่หลายประเภท สามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทน เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมหุ้น และกองทุนรวมผสม ซึ่งหากถามว่ามีเงินน้อยลงทุนอะไรดี? กองทุนรวมก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถเลือกลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 500 - 1,000 บาทเท่านั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกองทุน

2. หุ้น
การลงทุนในหุ้นหมายถึงการซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยผู้ลงทุนจะถือเป็นเจ้าของร่วมในบริษัทตามสัดส่วนหุ้นที่ถือครอง ซึ่งการลงทุนในหุ้นนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ อาจเลือกลงทุนระยะยาวเพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลหรือมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นก็ได้ รวมถึงสามารถเลือกลงทุนระยะสั้นเพื่อหวังผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาซื้อ-ขายหุ้นก็ได้เช่นกัน

3. ตราสารหนี้
ตราสารหนี้ หมายถึงสัญญาการกู้ยืมเงินระหว่างผู้ลงทุนกับผู้กู้ มีหลายประเภท เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ การลงทุนในตราสารหนี้ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ และผลตอบแทนปานกลาง

4. หุ้นกู้
หุ้นกู้ หมายถึงสัญญาการกู้ยืมเงินระหว่างบริษัท ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทเอกชนกับนักลงทุน นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นคืน โดยแต่ละระดับความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นกู้นั้น จะขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทเป็นหลัก

5. ประกันชีวิตควบคู่การลงทุน (Unit Linked) 
ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผสมระหว่างความคุ้มครองชีวิตของประกัน และโอกาสในการลงทุนไว้ด้วยกัน โดยเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิตและผลตอบแทนจากการลงทุน

 

แนะนำทางเลือกการลงทุนสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุน
หากถามว่านักลงทุนมือใหม่ควรลงทุนกับอะไรดีที่เริ่มต้นได้ง่ายและมีความเสี่ยงต่ำ 2 รูปแบบการลงทุนที่เราอยากแนะนำก็คือ กองทุนรวมและประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Unit Linked

การลงทุนในกองทุนรวม สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่าย และเริ่มลงทุนได้โดยไม่ต้องใช้เงินเริ่มต้นเยอะ อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาก เพราะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลกองทุนให้
การลงทุนพร้อมแผนคุ้มครองชีวิต (Unit Linked) ให้ความคุ้มค่าเพราะได้ทั้งการคุ้มครองชีวิต และการลงทุนในผลิตภัณฑ์เดียว อีกทั้งยังสามารถเลือกแผนที่เหมาะกับความต้องการและเป้าหมายของแต่ละคนได้ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องดูแลการลงทุนด้วยตนเองอีกด้วย

BY : Tonkla

ที่มา : prudential.co.th


บทความที่เกี่ยวข้อง
RFID vs Barcode: เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคลังสินค้าของคุณ
ในยุคที่ธุรกิจโลจิสติกส์และการจัดการคลังสินค้าแข่งขันกันด้วยความเร็วและความแม่นยำ การเลือกเทคโนโลยีสำหรับติดตามและจัดการสินค้าคงคลังจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
31 พ.ค. 2025
เทคโนโลยี WMS (Warehouse Management System) คืออะไร
ในยุคที่ธุรกิจโลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว การจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ กลายเป็นหัวใจสำคัญของการส่งมอบสินค้าให้รวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุน
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
31 พ.ค. 2025
ลดความเสี่ยง เริ่มต้นเร็ว คืนทุนไว ด้วยแฟรนไชส์ขนส่ง
ในยุคที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงเร็ว พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นความสะดวกสบาย การซื้อขายออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง “ธุรกิจขนส่ง” จึงกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย และหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากคือ “การลงทุนในแฟรนไชส์ขนส่ง” ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการรายใหม่สามารถเริ่มต้นได้เร็ว ลดความเสี่ยง และคืนทุนได้ไว
ร่วมมือ.jpg Contact Center
31 พ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ