แชร์

วัสดุกันกระแทกในขนส่ง มีอะไรบ้าง ?

อัพเดทล่าสุด: 27 ส.ค. 2024
889 ผู้เข้าชม

1.พลาสติกกันกระแทก (Bubble Wrap)

  •  คุณสมบัติ: พลาสติกกันกระแทกมีฟองอากาศเล็ก ๆ ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและลดการสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการปกป้องระดับเบาถึงปานกลาง
  •  การใช้งาน: ใช้ในการห่อหุ้มสินค้าโดยตรง หรือเป็นชั้นรองระหว่างสินค้าและกล่อง ใช้กับสินค้าเช่น เครื่องแก้ว, เครื่องเซรามิก, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

2. โฟมกันกระแทก (Foam)

  •  คุณสมบัติ: โฟมมีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันแรงกระแทกและรองรับน้ำหนักได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อน
  •  การใช้งาน: ใช้ห่อหุ้มหรือรองรับสินค้า มักใช้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่, เฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าอุตสาหกรรม

3. กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paper)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ทำจากกระดาษหลายชั้นที่มีช่องอากาศระหว่างชั้น ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี
  •  การใช้งาน: ใช้ในกล่องบรรจุภัณฑ์หรือทำเป็นตัวกันกระแทกภายในกล่อง มักใช้ในการบรรจุภัณฑ์สินค้าทั่วไป เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าอุปโภคบริโภค

4. เม็ดโฟมกันกระแทก (Packing Peanuts)

  •  คุณสมบัติ: มีลักษณะเป็นเม็ดโฟมเล็กๆ น้ำหนักเบา สามารถเติมเต็มช่องว่างภายในกล่องและช่วยป้องกันสินค้าไม่ให้ขยับ
  •  การใช้งาน: ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการเติมเต็มพื้นที่ว่างในกล่อง เช่น ของขวัญ, อุปกรณ์ตกแต่ง

5. แผ่นยางกันกระแทก (Rubber Padding)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อแรงกระแทก
  •  การใช้งาน: ใช้ในสินค้าที่มีน้ำหนักมากและต้องการการปกป้องที่มากขึ้น เช่น เครื่องจักร, อุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่

6. แผ่นไม้รอง (Wooden Crates)

  •  คุณสมบัติ: ทำจากไม้ มีความแข็งแรงสูงมาก เหมาะสำหรับการป้องกันสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก
  •  การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การขนส่งสินค้าโครงสร้างเหล็ก, เครื่องจักรขนาดใหญ่, หรืองานศิลปะ

เทคนิคและวิธีการเลือกใช้วัสดุกันกระแทกให้เหมาะสม:


1. พิจารณาน้ำหนักของสินค้า: สินค้าที่มีน้ำหนักมากต้องการวัสดุกันกระแทกที่แข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักได้ดี เช่น โฟมหนาๆ หรือแผ่นยางกันกระแทก ขณะที่สินค้าที่เบาอาจใช้พลาสติกกันกระแทกหรือกระดาษกันกระแทก

2. ตรวจสอบความเปราะบางของสินค้า: สำหรับสินค้าที่แตกหักง่ายหรือเป็นแก้ว ควรใช้วัสดุกันกระแทกที่มีคุณสมบัติการดูดซับแรงกระแทกสูง เช่น พลาสติกกันกระแทกหรือเม็ดโฟมกันกระแทก

3. คำนึงถึงการบรรจุหีบห่อที่แน่นหนา: การบรรจุหีบห่อที่แน่นหนาจะช่วยลดความเสี่ยงในการขยับของสินค้า ใช้เม็ดโฟมกันกระแทกหรือหมอนลมเพื่อเติมเต็มช่องว่างในกล่อง

4. เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ปัจจุบันมีวัสดุกันกระแทกที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ เช่น วัสดุเส้นใยธรรมชาติหรือกระดาษลูกฟูก สำหรับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุเหล่านี้สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

5. ความสะดวกในการใช้งานและการจัดเก็บ: วัสดุกันกระแทกบางชนิดสามารถใช้งานและจัดเก็บได้ง่าย เช่น แผ่นพลาสติกแบบยืดหยุ่น หรือพลาสติกกันกระแทกที่สามารถม้วนเก็บได้ง่าย ควรเลือกวัสดุที่สะดวกต่อการใช้งานและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ

6. การปรับขนาดและรูปร่างของวัสดุกันกระแทก: วัสดุบางประเภท เช่น โฟมหรือกระดาษลูกฟูก สามารถตัดหรือดัดให้เข้ารูปกับสินค้าที่ต้องการได้ ช่วยให้การบรรจุหีบห่อมีความปลอดภัยมากขึ้น






BY : LEO

ที่มา : CHAT GPT


บทความที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้าประจำต้องได้มากกว่า! ใช้ระบบ Booking สร้าง Loyalty Program ยังไงให้เวิร์ค
ในยุคที่ธุรกิจขนส่งแข่งขันกันด้วยความเร็ว ราคา และประสบการณ์ลูกค้า "ลูกค้าประจำ" คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ร่วมมือ.jpg Contact Center
30 เม.ย. 2025
ระบบ Booking ช่วยลูกค้าจองง่ายขึ้น ด้วยฟีเจอร์ ‘จองซ้ำ’ และ ‘จองแบบหลายปลายทาง’
ในยุคที่การแข่งขันด้านบริการขนส่งเข้มข้นมากขึ้น "ความสะดวก" และ "ความเร็ว" คือหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
ร่วมมือ.jpg Contact Center
29 เม.ย. 2025
ลงทุนแฟรนไชส์ขนส่ง = รายได้สม่ำเสมอในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอน
ในยุคที่เศรษฐกิจทั่วโลกเต็มไปด้วยความผันผวน ทั้งจากผลกระทบของเทคโนโลยี การเมือง และโรคระบาด ธุรกิจที่สามารถสร้าง รายได้สม่ำเสมอ และ ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ได้ กลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับนักลงทุน และหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่มาแรงที่สุดก็คือ "แฟรนไชส์ขนส่ง"
ร่วมมือ.jpg Contact Center
30 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ